งานวิจัยนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อการศึกษา “กาเมสุมิจฉาจารกับปัญหาจริยธรรมในสังคมปัจจุบัน” ซึ่งเป็นการศึกษาปัญหาจริยธรรมในสังคมที่มีมูลเหตุมาจากพฤติกรรมทางเพศที่ผิดศีลข้อที่ ๓ ในพุทธปรัชญา คือศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร วิทยานิพนธ์ ได้แบ่งออกเป็น ๖ บท คือ ๑. บทนำ ๒. ความหมาย องค์ประกอบ และมูลเหตุของกาเมสุมิจฉาจาร ๓. พฤติกรรมที่ผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร ๔. ปัญหาและผลกระทบของกาเมสุมิจฉาจาร ๕. พุทธวิธีในการแก้ปัญหาเรื่องกาเมสุมิจฉาจาร ๖. สรุปและเสนอแนะ ผลการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ พบว่าพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ของปัจเจกบุคคลในสังคม ปัจจุบัน ที่ผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจารมีมากมายในลักษณะต่าง ๆ และอยู่ในข่ายของการประพฤติผิดข้อนี้อีกหลายประการ อีกทั้งยังได้พบสาเหตุแห่งปัญหาจริยธรรม และปัญหาอาชญากรรมหลายอย่าง ซึ่งพอจะสรุปผลของการวิจัยดังนี้ คือ ๑. คำว่า “กาเมสุมิจฉาจาร” มีความหมายและรายละเอียดดังต่อไปนี้ คือ ในอรรถกถา มังคลัตถทีปนี ได้กล่าวไว้ว่า คำว่า “กาเมสุ” ได้แก่ การประพฤติเอื้อเฟื้อด้วยดีในการกระทำของคนคู่กันทั้งหลาย คำว่า “มิจฉาจาร” ได้แก่ความประพฤติที่ลามก ที่บัณฑิตทั้งหลายติเตียนโดยส่วนเดียว และประกอบด้วยเจตนา ที่จะล่วงละเมิดองค์ประกอบ ที่เป็นไปในทางกายทวาร โดยมุ่งการเสพอสัทธรรม คือ เพศสัมพันธ์ จึงได้ชื่อว่า “กาเมสุมิจฉาจาร” ความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน คำว่า “กาเมสุมิจฉาจาร” หมายถึง การประพฤติผิดในประเวณี สำหรับความหมายจากพระไตรปิฎกนั้นคำว่า “กาเมสุ” ได้แก่กิเลสกามและวัตถุกาม คำว่า “มิจฉาจาร” ได้แก่ ความประพฤติที่ลามก ที่บัณฑิตทั้งหลาย ติเตียนโดยส่วนเดียว และได้แสดงโทษของกาเมสุมิจฉาจารไว้ว่ามีโทษน้อย เพราะมีพฤติกรรมทางเพศกับบุคคลที่ปราศจากคุณธรรมมีศีลเป็นต้น มีโทษมากเพราะมีพฤติกรรมทางเพศกับบุคคลมีคุณธรรมมีศีลเป็นต้น ๒. ศีลข้อ กาเมสุมิจฉาจาร มีกฎเกณฑ์การตัดสินพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์เพื่อวินิจฉัยว่า การมีเพศสัมพันธ์ในลักษณะใด ที่ถือว่าเป็นการประพฤติผิดจริยธรรมทางเพศ และการมีเพศสัมพันธ์ในลักษณะใดที่ถือว่าไม่เป็นการประพฤติผิดจริยธรรมทางเพศ ตามหลักจริยธรรมในพุทธปรัชญาโดยให้พิจารณาองค์ประกอบที่เป็นเงื่อนไขในการตัดสินว่าผิดหรือถูก ๔ ประการ คือ ๑. อคมนียวตฺถุ คือ บุคคลที่ต้องห้ามในเรื่องมีเพศสัมพันธ์ ๒. ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ คือ มีเจตนาที่จะมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลต้องห้ามนั้น ๓. เสวนปฺปโยโค คือ มีความพยายามที่จะมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลต้องห้ามนั้น ๔. มคฺคปฺปฏิปตฺติอธิวาสนํ คือ ได้มีเพศสัมพันธ์กันขึ้น ถ้าหากพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ของบุคคลใดครบตามองค์ประกอบทั้ง๔ ประการนี้แล้ว ถือว่าบุคคลนั้น ได้ประพฤติผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร ตามหลักจริยธรรมในพุทธปรัชญา แต่ถ้าหากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ผิดองค์ประกอบข้อที่ ๑ ดังกล่าวมาแล้ว ก็ถือว่า เป็นไปตามธรรมดาของสามัญชน ในองค์ประกอบ ทั้ง ๔ ข้อนั้น องค์ประกอบข้อที่ ๑ คือ “อคมนียวตฺถุ” หมายถึงบุคคลที่ต้องการห้ามในเรื่องเพศสัมพันธ์นั้น แยกออกเป็น ๒ ประเภท คือ เพศหญิงและเพศชาย ซึ่งมีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน ดังนี้ คือ อคมนียวตฺถุ สำหรับฝ่ายชาย คือ หญิงที่ต้องห้ามในเรื่องเพศสัมพันธ์สำหรับฝ่ายชายมี ๓ ประเภทใหญ่ ๆ แยกออกเป็นประเภทย่อย ๆ ได้ ๒๐ ประเภท คือ ๑. หญิงที่เป็นภรรยาของชายอื่น มี ๑๐ ประเภท ๒. หญิงที่อยู่ในข่ายภรรยาอีก มี ๒ ประเภท ๓. หญิงที่มีผู้ปกครองดูแลอีก มี ๘ ประเภท อคมนียวตฺถุ สำหรับฝ่ายหญิง คือ ชายที่ต้องห้ามในเรื่องเพศสัมพันธ์ สำหรับหญิงมี ๒ ประเภท คือ ๑. ชายที่เป็นสามีของหญิงอื่น ๒. ชายที่เป็นนักบวช ๓. สำหรับมูลเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมทางเพศ ที่ผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจารนั้น มีหลายประการซึ่งพอจะสรุปเป็นประเด็นสำคัญ ๒ ประการ คือ ๑. องค์ประกอบภายใน คือ กิเลสตัณหาที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจเรียกว่า กิเลสกาม ๒. องค์ประกอบภายนอก คือ สิ่งแวดล้อมคือตัวบุคคล โอกาสที่เอื้ออำนวย ค่านิยม เรียกว่า วัตถุกาม ๔. พฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ มีผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร ในสังคมปัจจุบัน มีหลายกรณี ซึ่งบางกรณีก็ผิดเพียงสถานะเดียว บางกรณีก็ผิดหลายสถานะ หรือ บางกรณีก็ผิดเพียงฝ่ายเดียว บางกรณีก็ผิดทั้งสองฝ่าย บางกรณีก็ผิดมาก บางกรณีก็ผิดน้อย พฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ที่ถือว่าเป็นการประพฤติผิดมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ ๔ ประการ เป็นเครื่องตัดสินในพุทธปรัชญา ๕. ในงานวิจัยนี้ได้เสนอทรรศนะเพื่อการแก้ไขและป้องกันพฤติกรรมที่ผิดศีลข้อ กาเมสุมิจฉาจารไว้ ซึ่งพอจะสรุปประเด็นที่สำคัญ ๆ ไว้ ๒ ประการ คือ ๑. แก้ไขที่องค์ประกอบภายใน คือการแก้ไขกิเลสตัณหาภายในจิตใจโดยการศึกษาหลักจริยธรรมในพุทธปรัชญา และสร้างจิตสำนักในการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมในพุทธปรัชญา เพื่อขัดเกลากิเลสตัณหาอันเป็นต้นตอของพฤติกรรมทางเพศให้ลดลงหรือให้อยู่ในขีดจำกัดตามหลักจริยธรรม ๒. แก้ที่องค์ประกอบภายนอก คือ การแก้ไขที่สิ่งแวดล้อมที่ยั่วยุ และแก้ไขที่ค่านิยมทางเพศสัมพันธ์ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมตะวันตกและเสริมสร้างคุณธรรมของชีวิตทางด้านจริยธรรม การเมือง การปกครอง และการพัฒนาเศรษฐกิจของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและโรคภัยต่าง ๆ การแก้ไขพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ ที่ผิดศีล ข้อกาเมสุมิจฉาจาร ดังกล่าวนั้น ต้องอาศัยองค์กรของทั้งภาครัฐบาล และภาคของเอกชน โดยสร้างอุดมการณ์ร่วมกันว่า “จะขจัดปัญหาจริยธรรมทางเพศสัมพันธ์” ให้หมดไปจากสังคมปัจจุบันด้วยวิธีการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมในพุทธปรัชญา