งานวิจัยนี้ เป็นการศึกษาเปรียบเทียบจริยศาสตร์ในการรู้จักตนเองในพุทธปรัชญา เถรวาทกับปรัชญาของเล่าจื้อ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับการ รู้จักตนเองในพุทธปรัชญาเถรวาท กับปรัชญาของเล่าจื้อ จากการศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการรู้จักตนเองในพุทธปรัชญาเถรวาทพบว่า ความหมายของคำว่าการรู้จักตนเองมี๔ อย่าง คือ ความหมายทั่วไปที่นักวิชาการนำมา อธิบายเพื่อให้เข้าใจง่าย ความหมายที่ปรากฏในพระวินัย ความหมายที่ปรากฏในพระสูตร ทั้งหลาย และความหมายตามที่ปรากฏในพระอภิธรรมเป็นปรมัตถธรรมกล่าวถึงกาย จิต เจตสิก รูป และนิพพาน ส่วนคุณค่าการรู้จักตนเองเป็นคุณธรรมความดี ช่วยให้มีอายุยืน มี ทรัพย์ มีกำลัง มีเกียรติยศ รู้จักปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยการอนุเคราะห์ ช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้ฟังสิ่งที่ ดี ทำความเห็นให้ตรง และทำจิตให้ผ่องใส เกี่ยวกับหลักคุณค่าที่เป็นสภาวธรรมนั้น ทุกคน ต้องรู้จักวิธีทำจิตให้สงบ ด้วยการปฏิบัติกรรมฐาน จนรู้แจ้งเห็นจริงในสภาวธรรม ส่วนหลัก ปฏิบัติเพื่อการรู้จักตนเองในพุทธปรัชญาเถรวาทมี๒ ระดับ คือ (๑) หลักปฏิบัติระดับโลกียะ เป็นหลักการดำเนินชีวิตเพื่อการรู้จักเอาชนะความชั่วด้วยความดี และการรู้จักลักษณะนิสัย คนอื่น โดยการปฏิบัติคุณธรรมในสังคม มีคุณธรรมนักปกครอง คุณธรรมพ่อค้า คุณธรรมครู คุณธรรมสำหรับผู้ใหญ่ และหน้าที่ที่แต่ละคนต้องปฏิบัติตนในสังคม (๒) หลักปฏิบัติระดับ โลกุตตระ เพื่อความหลุดพ้นจากกิเลสเริ่มตั้งแต่เรียนรู้ไตรสิกขา รู้จักศีล สมาธิและปัญญา โดยการเจริญวิปัสสนากรรมฐานเป็นที่สุด จากการศึกษาแนวคิดเรื่องการรู้จักตนเองในปรัชญาเล่าจื้อนั้นพบว่า ความหมาย ของคำว่าการรู้จักตนเอง คือหลักการดำเนินชีวิตอยู่ในธรรมชาติ รู้จักบริโภคอาหาร และรู้จัก ความดีความชั่ว ลักษณะการรู้จักตนเองนั้นเกิดขึ้นเมื่อเล่าจื้อเบื่อหน่ายในชีวิตและออก ท่องเที่ยวไปชายแดน แล้วเขียนคัมภีร์เต๋า เต็กกิง ให้แก่นายด่าน เกี่ยวกับการปฏิบัติตาม หลักการรู้จักตนเองนั้น ได้แก่หลักคำสอนในการดำเนินชีวิตเพื่อเข้าใจกฎเกณฑ์ธรรมชาติ การปฏิบัติตนผสมกลมกลืนกับธรรมชาติ สำหรับการรู้จักตนเองทางสังคมได้แก่การปฏิบัติ คุณธรรมให้เกิดมีในสังคม อนึ่งการรู้จักตนเองในภาวะแท้จริงสูงสุดก็คือการบรรลุความเป็น เต๋า คือ ความว่างเปล่า “อภาวะ” จากการศึกษาเปรียบเทียบความหมายคำว่าการรู้จักตนเองในพุทธปรัชญาเถรวาท กับปรัชญาของเล่าจื้อพบว่ามีความเหมือนกัน คือสอนให้บุคคลมีการพิจารณากายกับจิต ลักษณะการรู้จักตนเอง มีความแตกต่างกันคือ พุทธปรัชญาเถรวาทเริ่มตั้งแต่เจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จออกผนวชแล้วค้นพบสัจธรรมซึ่งมีปรากฏในพระไตรปิฎก ส่วนปรัชญาเล่าจื้อปรากฎเมื่อ เล่าจื้อศึกษาค้นคว้าตำราและสภาพสังคม แล้วเขียนคัมภีร์เต๋า เต็กกิง ขึ้น ทำให้คนรู้จักเต๋าคือ ธรรมชาติ ส่วนคุณค่าของการรู้จักตนเองของทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกัน ในการดำเนินชีวิต พุทธปรัชญาเถรวาทมีข้อปฏิบัติพื้นฐานคือศีล ๕ ส่วนเล่าจื้อมีการดำเนินชีวิตอยู่กับธรรมชาติ คุณค่าการรู้จักตนเองในสังคม มีความเหมือนกัน คือ การปฏิบัติตนเพื่อสร้างคุณธรรมให้เกิด ในสังคม ส่วนคุณค่าการพัฒนาจิตสู่ความหลุดพ้นของทั้งสองนั้น มีความเหมือนกันคือความ หลุดแห่งจิต ซึ่งต่างกันเฉพาะการเรียกชื่อและวิธีปฏิบัติ วิธีปฏิบัติเพื่อการรู้จักตนเอง และ หลักคำสอนในการดำเนินชีวิตเพื่อตนเอง รวมถึงหลักปฏิบัติตนในสังคม แนวความคิดทั้งสอง ที่กล่าวมานี้ไม่แตกต่างกัน แต่หลักปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นต่างกัน ในพุทธปรัชญาเถรวาทมี หลักการปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ๒ ระดับ คือ ระดับโลกียะ และระดับโลกุตตระ คือ “พระนิพพาน” ส่วนการปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นของเล่าจื้อเป็นเพียงภาวะจิตว่างเปล่า ซึ่งเป็น อมตะอยู่ในภาวะธรรมชาติ
Download : 255015.pdf