วิทยานิพนธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการอธิบายปฏิจจสมุปบาทในพระไตรปิฎก และเปรียบเทียบการอธิบายปฏิจจสมุปบาทของพุทธโฆษาจารย์กับพุทธทาสภิกขุจากการ ศึกษาได้พบว่าปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นหลักธรรมสายกลาง ไม่เอียงสุดไปทางสัสสตทิฏฐิและอุจเฉททิฏฐิ มีความสัมพันธ์กับหลักธรรม สำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น อริยสัจ ไตรลักษณ์ เป็นต้น พระพุทธโฆษาจารย์ได้อธิบายปฏิจจสมุปบาทว่าเกิดครบหนึ่งรอบได้ต้องใช้เวลา ๓ ชาติ คือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต การอธิบายเน้นการเกิดทางด้านร่างกายมากกว่าการเกิดทางด้านจิตใจ พุทธทาสภิกขุ ปฏิเสธการอธิบายปฏิจจสมุปบาททางด้านร่างกาย เช่น การเกิดคือการคลอดออกมาจากท้องมารดา ได้อธิบายอีกนัยหนึ่งว่า ปฏิจจสมุปบาทคือการเกิดสภาวะทางด้านจิตใจ เกิดครบรอบในเวลาอันเร็วในขณะที่มีชีวิตอยู่ ในแต่ละวันปฏิจจสมุปบาทสามารถเกิดครบรอบได้หลายรอบ จากการเปรียบเทียบการอธิบายของพระพุทธโฆษาจารย์กับพุทธทาสภิกขุ ท่านทั้งสองยังคงอ้างพุทธพจน์ในการอธิบายเป็นหลักส่วนข้อแตกต่างนั้นขึ้น อยู่กับแนวความคิด มุมมอง ความเข้าใจ การตีความ และจับประเด็นของแต่ละท่าน การอธิบายทั้งสองถึงจะมีข้อแตกต่างกันและมีจุดเด่นคนละแบบ แต่หลักใหญ่ไม่ขัดกันแต่กลับสนับสนุนการอธิบายซึ่งกันและกัน การอธิบายของพุทธโฆษาจารย์มีจุดเด่นคือส่งเสริมให้คนเล็งเห็นผลกรรมในชาติ หน้า ส่วนการอธิบายของพุทธทาสภิกขุมีจุดเด่นคือส่งเสริมให้คนสนใจผลกรรมในชาติ ปัจจุบันมากกว่าที่จะสนใจในชาติหน้า ฉะนั้นคำอธิบายทั้งสองท่านจึงมุ่งในด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ โดยหลักสำคัญทางพระพุทธศาสนาแล้วผลกรรมมีได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เมื่อศึกษาอย่างละเอียดแล้วคำอธิบายของท่านทั้งสองสนับสนุนกันและกันให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น Download : 255113.pdf