ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง ศึกษาวิเคราะห์อวัจนภาษาเพื่อการสื่อสารและการเผยแผ่พุทธธรรม ศึกษาเฉพาะคัมภีร์ทีฆนิกาย สุตตันตปิฎก จากการศึกษา พบว่า อวัจนภาษา คือ ภาษาที่ไม่ใช่คำพูด เช่น การแสดงท่าทางต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งมนุษย์ใช้เพื่อการสื่อสารควบคู่กับภาษาพูดมาแต่โบราณ ในปัจจุบัน นักวิชาการได้แบ่งอวัจนภาษาที่มีความเกี่ยวพันธ์กับมนุษย์ เป็น ๗ ประเภทคือ ๑. เทศภาษา คือ การใช้พื้นที่และระยะห่างเพื่อการสื่อสาร ๒. กาลภาษา คือ การใช้เวลาเพื่อการสื่อสาร ๓. ภาษาท่าทาง คือ การแสดงกิริยาท่าทางต่าง ๆ เพื่อการสื่อสาร ๔. กายภาพภาษา คือ การใช้รูปร่างหน้าตาเพื่อการสื่อสาร ๕. สัมผัสภาษา คือ การใช้การสัมผัสทางกายเพื่อการสื่อสาร ๖. ปริภาษา คือ ลักษณะของเสียงที่ใช้ในการสื่อสาร ๗. วัตถุภาษา คือ การใช้วัตถุสิ่งของเพื่อการสื่อสาร อวัจนภาษาที่แสดงออกบางอย่างมีความคล้ายคลึงกัน บางอย่างมีความแตกต่างกัน ทั้งลักษณะของอวัจนภาษาและความหมาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแตกต่างกันของแต่ละสังคมวัฒนธรรมอวัจนภาษา สามารถบอกให้ทราบถึงลักษณะต่าง ๆ ของผู้แสดง เช่น สถานภาพ บุคลิกลักษณะภายนอก รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกภายใน แม้กศึกษาศาสตร์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน เช่น ประวัติศาสตร์ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา สังคมศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิวิทยา แพทยศาสตร์ จิตวิทยา เราสามารถสืบค้นและศึกษาได้จากอวัจนภาษาของบุคคลในการสื่อสารเพื่อเผยแผ่ ธรรมะของพระพุทธเจ้า ลักษณะของอวัจนภาษามีปรากฏแตกต่างกันไปตามแต่ความเหมาะสมกับผู้ฟัง อวัจนภาษาที่มีปรากฏมากคือ ภาษาท่าทาง อวัจนภาษาต่าง ๆ ที่ทรงแสดงทรงใช้เพื่อแทนคำพูดบ้าง เสริมคำพูดบ้าง เพื่อโน้มน้าวใจผู้ฟัง ให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา น้อมใจไปตามกระแสธรรมะที่พระองค์ทรงแสดง มีความสำคัญต่อการเผยแผ่ธรรมะในแง่เป็นกุศโลบายเพื่อเข้าหาผู้ฟัง ชักนำผู้ฟังเข้าสู่ความสนใจในเนื้อหาของธรรมะจะเห็นได้ว่า อวัจนภาษามีความสำคัญในการสื่อสารของมนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น จึงควรมีการศึกษาและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ เพื่อประโยชน์แก่การสื่อสารและดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ต่อไป
Download : 254919.pdf