งานวิจัยนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะศึกษาเรื่อง “การศึกษาวิเคราะห์เรื่องมนุษยนิยมในพุทธปรัชญาเถรวาท” เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ รวมทั้งสารัตถะแห่งชีวิตของมนุษย์ ทั้งในส่วนที่เป็นประโยชน์แก่ตัวมนุษย์เองและในส่วนที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมหรือสังคม โดยศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พระไตรปิฎกเป็นหลัก ผู้ศึกษาจะได้รับประโยขน์และความกระจ่างแจ้งในความหมายของมนุษยนิยมตามทรรศนะของพุทธปรัชญาและนักปรัชญาท่านอื่น ๆ ในการวิจัยนี้ ผู้วิจัยได้แบ่งหัวข้อเป็น ๕ บท ดังนี้ บทที่ ๑ ว่าด้วยความเป็นมาและความสำคัญของการวิจัย บทที่ ๒ ว่าด้วยความหมาย ความเป็นมา ลักษณะ และขอบเขตของมนุษยนิยม บทที่ ๓ ว่าด้วยมนุษยนิยมในพุทธปรัชญาเถรวาท บทที่ ๔ ว่าด้วยพุทธปรัชญามนุษยนิยมกับปัญหาสิทธิมนุษยชน บทที่ ๕ ว่าด้วยสรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ ผลของการศึกษามีข้อสรุปที่สำคัญ คือ พุทธปรัชญา ให้ความสำคัญแก่ความเป็นมนุษย์ โดยชี้แนะให้มนุษย์รู้จักมรรควิธีที่ถูกต้อง คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ ซึ่งเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของชีวิตมนุษย์ นั่นคือนิพพาน อันเป็นสิ่งที่สิ้นสุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวล และให้ตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เพราะพุทธปรัชญาถือว่า ผู้ที่จะเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบได้นั้น จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ ๒ ประการ คือ มีความรู้ชอบ (สมฺมาญาณสมฺปนฺโน) และมีการกระทำที่ถูกต้องเป็นธรรม (สมฺมาจริยาสมฺปนฺโน) เป็นประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวมหรือสังคม อันเป็นคุณสมบัติของพระพุทธองค์ นั่นคือ ความรู้ต้องมาคู่กับคุณธรรม (วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน) พุทธปรัชญาถือว่า มนุษย์จะมีเสรีภาพที่สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้ใช้ปัญญาในการพิจารณาสรรพสิ่งเพื่อมุ่งทำลายกิเลส โดยไม่ทำจิตของตนให้ตกอยู่ในอำนาจของกิเลสและอยู่ในสภาวะวิมุติ ซึ่งเสรีภาพที่แท้จริงนี้ก็คือเจตจำนงของพระอรหันต์นั่นเอง ส่วนในด้านการปฏิบัติตนต่อสังคม พุทธปรัชญาก็ได้ชี้แนะแนวทางให้มนุษย์ใช้ความสามารถทางสติปัญญาในการปฏิบัติตน คือ ทำหน้าที่ของมนุษย์ที่ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์เกื้อกูลต่อส่วนรวมมากที่สุดโดยเฉพาะหลักคำสอนเรื่องสังคหวัตถุธรรมและพรหมวิหารธรรม ที่มุ่งก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน ลดความเห็นแก่ตัว ความขัดแย้ง ในเรื่องของอุดมการณ์ด้านต่าง ๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เป็นต้น