บทคัดย่อ

                      การวิจัยเรื่อง  การรับรู้เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องนรกและสวรรค์ในพุทธศาสนาเถรวาท : กรณีศึกษาผู้ปฏิบัติธรรมวัดราชสิงขร  มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาระดับการรับรู้เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องนรกและสวรรค์ในพุทธศาสนาเถรวาทของผู้ปฏิบัติธรรมวัดราชสิงขร ๒) เพื่อศึกษาความแตกต่างระดับการรับรู้เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องนรกและสวรรค์ในพุทธศาสนาเถรวาทของผู้ปฏิบัติธรรมวัดราชสิงขร  ซึ่งประกอบด้วย  เพศ  อายุ  อาชีพ  สถานภาพสมรส  ระดับการศึกษา  รายได้ต่อเดือน  ประสบการณ์การทำงาน  และประสบการณ์ทางศาสนาที่ปฏิบัติบ่อยที่สุด  ๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องนรกและสวรรค์ในพุทธศาสนาเถรวาทด้านต่างๆ      

                      เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถาม  กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้ปฏิบัติธรรมวัดราชสิงขร จำนวน ๒๕๙ คน สถิติที่ใช้ประกอบด้วย ความถี่ (Frequency Distribution) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) การทดสอบค่าที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และการวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (The Pearson’s Product Moment Correlation)

ผลการศึกษา

                      ๑. ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

                      พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยมีร้อยละ (๖๔.๙ %) อายุ ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า ๕๐ปีขึ้นไป (๓๑.๗%) อาชีพ ส่วนใหญ่มีอาชีพอื่นๆ(๕๙.๘%) สถานภาพสมรส ส่วนใหญ่สมรส (๔๘.๓%) ระดับการศึกษา  ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี(๓๘.๒%)  รายได้ต่อเดือน ส่วนใหญ่มีรายได้ระหว่าง ๗,๐๐๐-๑๕,๐๐๐ บาท (๔๒.๙%)ประสบการณ์การทำงาน  ส่วนใหญ่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า ๒๐ ปี (๓๓.๒%)ประสบการณ์ทางศาสนาที่ปฏิบัติบ่อยที่สุด  ส่วนใหญ่มีการทำบุญ/ตักบาตร (๔๓.๖%)

                      ๒.ระดับการรับรู้นรกและสวรรค์

                      พบว่า กลุ่มตัวอย่างรับรู้เรื่องนรกและสวรรค์หลังความตายอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๘๒  และสามารถเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านผลต่อพฤติกรรม ด้านภพภูมิ และด้านผลสุขทุกข์ตามภพภูมิ  ตามลำดับ ( = ๓.๘๕, ๓.๘๒, และ ๓.๖๙ ตามลำดับ)

                      ส่วนการรับรู้นรกและสวรรค์ในชาติปัจจุบันอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๓ และสามารถเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านผลแห่งทุกข์สุข ( = ๔.๐๐) ด้านผลต่อพฤติกรรม (๓.๙๕)  และด้านภพภูมิ (๓.๘๓) ตามลำดับ

                      ๓. ความแตกต่างในระดับการรับรู้

                      พบว่า  กลุ่มตัวอย่างที่มี เพศ  สถานภาพสมรส  ระดับการศึกษา  รายได้ต่อเดือน และกิจกรรมทางศาสนาที่เข้าร่วม   แตกต่างกัน  รับรู้เรื่องนรกและสวรรค์หลังความตาย  แตกต่างกันที่ระดับ ๐.๐๕  ขณะที่ผู้ที่มี  อายุ  ประสบการณ์การทำงาน  แตกต่างกัน  รับรู้เรื่องนรกและสวรรค์หลังความตาย  ไม่แตกต่างกัน 

                      พบว่า  กลุ่มตัวอย่างที่มี  เพศ  สถานภาพสมรส  ระดับการศึกษา  แตกต่างกัน  มีระดับการรับรู้เรื่องนรกและสวรรค์ในชาติปัจจุบัน  แตกต่างกัน  ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มี  อายุ  รายได้  ประสบการณ์การทำงาน  และกิจกรรมทางศาสนาที่เข้าบ่อยที่สุด  ไม่แตกต่างกัน  ในระดับการรับรู้เรื่องนรกและสวรรค์ในชาติปัจจุบัน

                      ๔. ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้

                      พบว่า  มีความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้เรื่องนรกและสวรรค์หลังความตาย  และการรับรู้เรื่องนรกและสวรรค์ในชาติปัจจุบัน  ทั้งโดยรวมทุกด้าน  และในแต่ละด้าน  ที่ระดับ ๐.๐๑

ดาวน์โหลด