วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดื่มสุราของทหารกรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดื่มสุราของทหารกรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ และ ๓) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการดื่มสุราของทหารกรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ทหารในสังกัดกรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ จำนวน ๑๙๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบประมาณค่า ๕ ระดับ ค่าดัชนีความสอดคล้องมากกว่า ๐.๕ ทุกข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t (t-test for Independent Sample) และค่า F-test (One Way ANOVA) หากพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจะทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วย LSD’s Method
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดื่มสุราของข้าราชการทหาร กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (เท่ากับ ๓.๒๔) ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ข้าราชการทหาร มีพฤติกรรมการละเมิดศีลข้อที่ ๕ อยู่ในระดับปานกลาง (เท่ากับ ๓.๑๓ - ๓.๓๓) ได้แก่ ด้านจิตวิทยา ด้านสังคม และด้านการรับรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสุรา
๒. การศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมด้านการดื่มสุราของข้าราชการทหาร กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ ซึ่งมีสมมติฐานว่า ข้าราชการทหาร กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ที่มีข้อมูลทั่วไปต่างกัน มีพฤติกรรมการละเมิดศีลข้อที่ ๕ แตกต่างกัน พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลได้แก่ เพศและด้านวุฒิการศึกษาสูงสุด ส่งผลให้มีพฤติกรรมการละเมิดศีลข้อที่ ๕ แตกต่างกัน คือ ข้าราชการทหารที่มีเพศแตกต่างกัน มีระดับพฤติกรรมการละเมิดศีลข้อที่ ๕ แตกต่างกันในด้านสังคมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ และข้าราชการทหารที่มีคุณวุฒิการศึกษาสูงสุดระดับมัธยมศึกษา มีระดับพฤติกรรมการละเมิดศีลข้อที่ ๕ ด้านจิตวิทยา มากกว่า ข้าราชการทหารที่มีวุฒิการศึกษาสูงสุดระดับ ปวช., ปวส., หรืออนุปริญญา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓. ความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดื่มสุราของข้าราชการทหาร กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ พบว่า ความคิดเห็นโดยรวมต่อมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของรัฐบาล มีผลต่อการควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ร้อยละ ๗๖.๓๒) ในขณะที่ข้าราชการทหารไม่เห็นด้วยต่อมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของรัฐบาล (ร้อยละ ๓๐.๐๐) จึงกล่าวได้ว่ามาตรควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของรัฐบาลมีผลต่อพฤติกรรมการดื่มสุราของข้าราชการทหาร กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์
Download |