การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปริศนาธรรมเกี่ยวกับความตายของภาคอีสาน จากวรรณกรรมอีสานที่เกี่ยวกับปริศนาธรรมในประเพณีความตายของภาคอีสาน การเก็บข้อมูลในส่วนข้อมูลปฐมภูมิที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ส่วนข้อมูลทุติยภูมิเป็นการศึกษาปริศนาธรรมที่เกี่ยวกับการปฏิบัติประเพณีการตายของภาคอีสาน และการสัมภาษณ์ปราชญ์ชาวบ้านที่ได้กล่าวไว้ที่เป็นปริศนาธรรมคำสอนที่สืบทอดจากอดีตถึงปัจจุบันที่เกี่ยวกับประเพณีการตายของภาคอีสาน เพื่อให้เป็นแบบอย่างแนวทางการปฏิบัติที่ดีและถูกต้องตามประเพณี
ผลการวิจัยพบว่า ปริศนาธรรมที่เกี่ยวกับประเพณีการตายของภาคอีสาน มีลักษณะสำคัญคือ ๑) เป็นคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับแนวการปฏิบัติเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไปของภาคอีสาน ๒)เป็นกรอบแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับประเพณีการตายให้ถูกต้องและดีงามที่คนอีสานที่ได้ศึกษาและเข้าใจปริศนาธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาจากการถ่ายทอดจากประเพณีและวิธีการปฏิบัติ โดยการบอกเล่า จากปากต่อปาก และผูกไว้เป็นปริศนาธรรม ๓) เป็นวรรณกรรมถ่ายทอดแบบ “มุขปาฐะ”
จากการวิเคราะห์ปริศนาธรรมเกี่ยวกับความตายของภาคอีสาน ได้พบว่า มีการอิงหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาประกอบเข้าไว้ ที่บ่งบอกถึงความเชื่อในเรื่องของบาปบุญ ภพภูมิ นรกสวรรค์ จึงมีประเพณีในการทำบุญอุทิศให้กับผู้ที่ตายไปแล้ว เนื่องจากได้รับอิทธิพลของหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ทำให้ประเพณี ตลอดจนปริศนาธรรมยังคงอยู่และมีการสืบทอดต่อๆ มา
ในด้านความนิยม ปริศนาธรรมถือว่าเป็นวรรณกรรมที่ทรงคุณค่าอันประเสริฐ ที่มีสาระสำคัญและประโยชน์ยิ่งแก่ชนชาวอีสาน ที่ยึดถือสืบทอดปฏิบัติเกี่ยวกับประเพณีการตายมาจนปัจจุบันประชาชนยึดหลักธรรมเป็นเครื่องเหนี่ยวจิตใจ เป็นคติธรรมคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา ที่มุ่งสอนให้ผู้คนมุ่งละความชั่ว ทำความดี และทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องใสเบิกบาน ทำให้สังคมเกิดความสงบสุขและพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า จากการสืบทอดในรูปของมุขปาฐะที่จำกันมาสืบทอดกันมา เป็นความนิยมทั้งเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินในการทดสอบปัญญา เนื่องจากได้แฝงหลักธรรมอันประเสริฐ จึงทำให้ปริศนาธรรมเป็นมรดกตกทอดถึงคนรุ่นหลังของชาวอีสาน เพื่อที่จะได้ศึกษาถึงภูมิปัญญาอันเลิศของบรรพบุรุษและรักษาไว้อย่างยั่งยืนต่อไป
Download |