หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระจักรกริช ปิยธมฺโม (โสภณ)
 
เข้าชม : ๑๙๙๖๗ ครั้ง
ศึกษาวิเคราะห์การสวดพระปาฏิโมกข์ในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ไทย (๒๕๕๔)
ชื่อผู้วิจัย : พระจักรกริช ปิยธมฺโม (โสภณ) ข้อมูลวันที่ : ๑๙/๐๗/๒๐๑๒
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระ ใบฎีกาเสน่ห์ ญาณเมธี, ดร.
  ดร. พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์
  ดร. ไพฑูรย์ รื่นสัตย์
วันสำเร็จการศึกษา : 2554
 
บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่อง “ศึกษาวิเคราะห์การสวดพระปาฏิโมกข์ในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ไทย”  มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาประวัติและพัฒนาการของการสวดพระปาฏิโมกข์ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา  ๒) เพื่อศึกษาวิธีการสวดพระปาฏิโมกข์ของคณะสงฆ์ไทย และ              ๓) เพื่อศึกษาการสวดพระปาฏิโมกข์ของพระสงฆ์แบบล้านนา

                      ผลการวิจัยพบว่า  การสวดพระปาฏิโมกข์เป็นพุทธบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุสงฆ์ทำอุโบสถสวดพระปาฏิโมกข์ขึ้นทุกวัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ  เป็นการอนุเคราะห์ให้พระสงฆ์ทบทวนพระธรรมพระวินัยที่ได้ประพฤติปฏิบัติมา  โดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้สวด   พระภิกษุที่เหลือเป็นผู้ฟัง  นอกจากนี้ การสวดพระปาฏิโมกข์ยังเกี่ยวข้องกับพิธีกรรม เช่น บุพกรณ์  มีการปัดกวาดสถานที่  เตรียมน้ำฉันเป็นต้น  การสวดพระปาฏิโมกข์ยังเป็นสังฆกรรมหนึ่งในพระพุทธศาสนา ชื่อว่า ญัตติกรรม ซึ่งทำโดยพระภิกษุ ๔ รูปขึ้นไปตามความเหมาะสม  มีทั้งการสวดโดยพิสดารและการสวดโดยย่อ

                      สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระองค์ทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาทรงสร้างอุโบสถและปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ  เพื่อให้พระสงฆ์ได้ทำสังฆกรรมปาฏิโมกข์  ต่อมาสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงสนับสนุนส่งเสริมโดยมีพระราชโองการให้สืบดูว่า  วัดไหนมีการทำอุโบสถสวดพระปาฏิโมกข์เสมอทุกวันอุโบสถ  จะทรงพระราชอุทิศกระจาดพระปาฏิโมกข์  

                ประเด็นเกี่ยวกับการสวดปาฏิโมกข์แบบล้านนามีลักษณะพิเศษกว่าคณะสงฆ์ในภาคอื่นของประเทศไทย คือ มีการนัดพบของกลุ่มพระภิกษุในหัวอุโบสถ  ที่วัดใดวัดหนึ่ง  เพื่อรวมกลุ่มกันทำสามัคคีอุโบสถปาฏิโมกข์  เพื่อให้เกิดความสามัคคีของกลุ่มสงฆ์ในล้านนา  และการทำ                  สังฆกรรมของล้านนาต้องครบองค์ ๕ อย่าง คือ ๑) ตนราธนาหื้อว่าถูกแม่นแท้ ( มีผู้เชื้อเชิญ )                ๒) ตนแสดงว่าบ่หื้อผิดสักตัวแท้ (ผู้สวดต้องออกเสียและจำเนื้อหาของบทธรรมได้อย่างถูกต้อง )  ๓) จดหัตถบาสก็หื้อถูกองค์ดีแท้ ( พระภิกษุสงฆ์ในขณะนั่งฟังพระสวดปาฏิโมกข์  ต้องนั่ง                     หัตถบาส )  ๔) ก็เป็นสีมาแท้ (เ ขตแดนที่ประกาศพระบรมราชโองการให้เป็นของสงฆ์ )                      ๕) บ่เป็นวรรคเสียแท้ ( การทำสังฆกรรมพระปาฏิโมกข์ต้องครบองค์สงฆ์ ) ถ้าครบองค์ ๕                   สังฆกรรมแบบล้านนาจึงจะบริสุทธิ์

Download

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕