การศึกษาวิเคราะห์อารัญญิกธุดงค์ในพระพุทธศาสนาเถรวาท : ศึกษาเฉพาะกรณีพระเรวตเถระนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการคือ (๑) เพื่อศึกษาอารัญญิกธุดงค์ในพระพุทธศาสนา เถรวาท (๒) เพื่อศึกษาชีวประวัติของพระเรวตเถระ (๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์อารัญญิกธุดงค์ของพระเรวตเถระที่มีอิทธิพลต่อพระสงฆ์ไทยในปัจจุบัน
ผลการวิจัย พบว่า อารัญญิกธุดงค์ในพระพุทธศาสนาเถรวาท หมายถึง องค์คุณเครื่องกำจัดกิเลสของผู้ถือการอยู่ป่าเป็นกิจวัตร จัดอยู่ในทุกกลุ่มของธุดงค์ ๑๓ มี ๖ กลุ่ม คือ (๑) โดยหมวด (๒)โดยปัจจัย (๓)โดยย่อ (๔) โดยผู้ที่ยังไม่ได้ศึกษาธุดงค์ (๕)โดยบุคคลและ (๖)โดยข้อปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ธรรมเป็นอุปการะแก่ผู้ปฏิบัติอารัญญิกธุดงค์ มีความสำคัญ คืออพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตพระภิกษุให้อยู่ป่าเพื่อบำเพ็ญเพียรทางจิตจนบรรลุมรรคผลนิพพาน มีวิธีการปฏิบัติ คือ พิจารณาว่า บริเวณไหนเป็นเขตป่าหรือวัด ป่าที่ไกลจากบ้านหลังสุดท้ายประมาณ ๕๐๐ ชั่วคันธนูหรือ ๑ กิโลเมตร ถ้ามีภูเขาหรือแม่น้ำกั้น ให้วัดตามระยะทางเดินปกติ และออกมารับอรุณในป่า ในอารัญญิกังคธุดงค์ มี ๓ ระดับแห่งการปฏิบัติ คือ เคร่งครัด ปานกลางและ ผ่อนปรน อานิสงส์มี ๗ ประการ คือ ๑) สมาธิตั้งมั่น ๒) มีปัจจัยดำรงชีวิต ๓) อันตรายไม่มารบกวนจิต ๔) ไม่สะดุ้งกลัว ๕) ละความเยื่อใยในชีวิต ๖) ได้รับความสุขจากวิเวก ๗) สามารถรักษาธุดงค์ในข้ออื่นๆได้ อารัญญิกธุดงค์ในพุทธศาสนาเถรวาทมี ๓ ประเด็นคือ (๑) ตามแนวพระไตรปิฎกปิฎก (๒) ตามแนววิมุตติมรรค (๓) ตามแนววิสุทธิมรรค
พระเรวตเถระเป็นผู้ถืออารัญญิกธุดงค์ ได้รับกยกย่องจากพระบรมศาสดาในตำแหน่งเอตทัคคะทางการอยู่ป่าเป็นวัตร เนื่องจากท่านเป็นพระสาวกถือการปฏิบัติด้านนี้เป็นพิเศษ จนเป็นผู้เลิศในด้านการอยู่ป่า จีงได้รับตำแหน่งเอตทัคคะ อยู่ในกลุ่มพระสาวกเอตทัคคะ ๔๑ รูป และท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ในกลุ่มพระอสีติมหาสาวก คือ พระสาวกผู้ใหญ่ ๘๐ รูป เพราะท่านเข้ามาบวชในช่วงปฐมโพธิกาลและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
บทบาทในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระเรวตะในครั้งพุทธกาล มี ๔ ด้าน คือ (๑) ด้านสิ่งแวดล้อม (๒ ) ด้านมนุษย์ (๓) ด้านสังคม (๔ ) ด้านวิธีการเผยแผ่ โดยใช้ป่าเป็นเครื่องมือพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ อารัญญิกธุดงค์ของพระเรวตะเถระที่เป็นแนวทางต่อพระภิกษุไทยในปัจจุบัน ๗ ประเด็นคือ (๑) เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (๒) เพื่อทำให้สติได้ปรากฏชัด จิตได้ตั้งมั่น อาสวะสิ้นไป และทำให้บรรลุธรรมอันยอดเยี่ยม (๓) พระภิกษุอยู่ป่าของไทยเริ่มปรากฏมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย (๔) ลักษณะทางภูมิประเทศ สอดคล้องกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงยกย่องการอยู่ป่า (๕) ลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ นำไปสู่การบัญญัติให้พระภิกษุผู้อยู่ป่าว่า เป็นภิกษุฝ่ายอารัญญวาสี (๖) ลักษณะทางสังคมปัจจุบัน ถูกจำกัดด้วยกฎหมายป่าสงวน จึงหันมาปลูกป่าในอารามแทน (๗) ลักษณะทางคำสอนเรื่องการอยู่ป่า เป็นแบบอย่างการปฏิบัติ ซึ่งเป็นการปรับปรุงให้เข้ากับสถาณการณ์ปัจจุบัน
Download |