ศึกษาวิเคราะห์นิโรธสมาบัติในพระพุทธศาสนาเถรวาท มีวัตถุประสงค์ ๒ ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาวิเคราะห์นิโรธสมาบัติในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท (๒) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ทัศนะของภิกษุสงฆ์และนักวิชาการพระพุทธศาสนาในประเทศไทยและศึกษาความเชื่อเกี่ยวกับนิโรธสมาบัติในสังคมไทย
ผลการวิจัยพบว่า นิโรธสมาบัติ คือ ลักษณะ สภาวะ อาการดับลงของสังขาร ๓
อันได้แก่ วจีสังขาร กายสังขาร จิตตสังขาร ซึ่งสัญญาและเวทนาดับลงไม่มีเหลือ สภาวะนั้นไม่มีจิตในขณะที่อยู่ในนิโรธสมาบัติ เจ้าชายสิทธัตถะทรงค้นพบนิโรธสมาบัติเป็นบุคคลแรกในโลกในราตรีที่ทรงตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นนิโรธสมาบัติจึงมีความสำคัญในฐานะเป็นพยานการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คุณสมบัติของบุคคลที่สามารถเข้านิโรธสมาบัติได้นั้นจะต้องเป็นพระอริยะบุคคล ๒ ประเภทเท่านั้น คือ พระอรหันต์และพระอนาคามีผู้มีความชำนาญในสมาบัติ ๘
ทัศนะของภิกษุสงฆ์ต่อนิโรธสมาบัติในประเทศไทย พบว่าพระภิกษุผู้ปฏิบัติหน้าที่เผยแผ่หลักธรรมคำสอนในประเทศไทยที่มีอิทธิพลต่อคนในสังคมไทยมีความรู้ความเข้าใจเรื่องนิโรธสมาบัติสอดคล้องตามที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกและคัมภีร์ชั้นรอง เนื่องจากพระเถระและนักวิชาการเหล่านั้นได้ผ่านการศึกษาเรียนรู้ในพระพุทธศาสนามาอย่างเป็นระบบ เพราะอิทธิพลของรูปแบบวิธีการสืบนำหลักการและคำสอนที่เป็นจารีตปฏิบัติที่เคร่งครัดในฝ่ายเถรวาท ส่วนนักวิชาการพระพุทธศาสนาก็มีท่าทีต่อเรื่องนิโรธสมาบัติในประเด็นของ ลักษณะ สภาวธรรม มีความสอดคล้องตามที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏกและเอกสารชั้นรองเช่นเดียวกัน
ความเข้าใจของพุทธศาสนิกชนไทยในเรื่องนิโรธสมาบัติสามารถแยกออกได้เป็น ๒ กลุ่มคือ (๑) กลุ่มพุทธศานิกชนที่เข้าใจเรื่องนิโรธสมาบัติตามความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่ในพระพุทธศาสนาเพราะการได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง (๒) กลุ่มพุทธศาสนิกชนที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องนิโรธสมาบัติที่ถูกต้อง เพราะการได้รับความรู้ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเนื่องจากความเชื่อและประเพณีปฏิบัติที่มีความแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น
Download |