วิทยานิพนธ์ เรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาทัศนคติในการคบมิตรของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในสังคมไทย ๒) ศึกษาหลักคำสอนว่าด้วยการคบกัลยาณมิตรที่ปรากฏในพระพุทธศาสนาเถรวาทและหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น ๓) ศึกษาระดับปัญหาและอุปสรรคในการคบมิตรของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบผมผสานทั้งในเชิงเอกสารและเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการศึกษา แล้วนำมาหาค่าทางสถิติ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน จากกลุ่มตัวอย่างนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑-ม.๓) จำนวน ๑๕๐ คน
ผลการศึกษาหลักคำสอนว่าด้วยการคบกัลยาณมิตรที่ปรากฏในพระพุทธศาสนา
เถรวาทและหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นพบว่า มีความคล้ายคลึงกันกล่าวคือ เนื้อหาการคบมิตรในหลักสูตรมัธยมศึกษามีความสอดคล้องกับหลักการคบมิตรในพระพุทธศาสนาโดยมุ่งเน้นให้รู้จักเลือกที่จะคบคนดีผู้ที่คอยแนะนำประโยชน์ให้ ไม่ชักชวนกันในทางเสียหาย รู้จักช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่กันและกันได้ โดยมีหลักธรรมในมงคลสูตรเป็นหลักการในเรียนรู้และแนะนำในการคบมิตรของวัยรุ่นในสังคมไทย
ผลการศึกษาระดับทัศนคติในการคบมิตรของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในเขตการศึกษาที่ ๒ พบว่า ระดับทัศนคติในการคบมิตรของนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา๒ อยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย ๔.๒ โดยกลุ่มตัวอย่างมองว่า การคบเพื่อนทำให้เกิดความสบายใจ และสามารถปรึกษาหารือกันได้มากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ๔.๕ ส่วนการไม่คบมิตรนั้นพบว่า เพื่อนที่ชอบนำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเป็นผู้ที่ไม่น่าคบหามากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ๔.๖ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น รู้จักที่จะคบเพื่อนและชักชวนกันไปในทางที่เหมาะสม โดยมีเพียงบางส่วนที่ยังไม่สามารถแยกแยะในการคบเพื่อนที่ดีและไม่ดีได้
สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการคบมิตรระดับมัธยมศึกษาตอนต้นนั้น พบว่า ทำให้มีปัญหาและอุปสรรค ในการเรียน เช่น การพากันมาโรงเรียนสาย การไม่มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ปัญหาการทะเลาะวิวาท เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การคบเพื่อนนั้นมีทั้งที่พาไปในทางที่ดีและไม่เหมาะสม
Download |