การศึกษาเปรียบเทียบทัศนะเรื่องอนัตตาในพุทธปรัชญาเถรวาทกับแนวคิดของ ฌอง-ปอล ซาร์ตร์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาหลักอนัตตาในพุทธปรัชญาเถรวาทกับแนวคิดของฌอง-ปอล ซาร์ตร์ และเพื่อศึกษาเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างกันเกี่ยวกับแนวคิดหลักอนัตตาของทั้งสองทัศนะ ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมุ่งศึกษาข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยชั้นปฐมภูมิและทุติยภูมิที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหลักอนัตตาในทัศนะของพุทธปรัชญาเถรวาทและแนวคิดของฌอง-ปอล ซาร์ตร์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเป็นสำคัญ
ผลการวิจัยพบว่า หลักอนัตตาในความหมายของซาร์ตร์และพุทธปรัชญาเถรวาทนั้น มีนัยที่ค่อนข้างจะสอดคล้องกัน สิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในโลก รวมทั้งจิตของมนุษย์ล้วนมีสภาวะแห่งความเป็นอนัตตาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด เพราะการที่จิตคิดปรุงแต่งสิ่งต่างๆ จึงทำให้เราไม่สามารถที่จะมองเห็นสภาวะแห่งความเป็นอนัตตาได้ เป็นเหตุให้เราหลงผิดคิดไปว่าความเป็นอนัตตานั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลก ความเป็นอนัตตานั้นเป็นเพียงแค่ความคิดหนึ่งซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นมา แต่แท้ที่จริงแล้วมนุษย์มิได้มีความหมายอะไรเลย คล้ายคลึงกับพุทธปรัชญาเถรวาทที่ว่า สิ่งต่างๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต มีสภาพที่ว่างจากตัวตนและสิ่งที่เนื่องด้วยตนทั้งสิ้น แต่การที่จิตมนุษย์ถูกอวิชชาคือความไม่รู้แจ้งเห็นจริงในกฎแห่งไตรลักษณ์ครอบงำ จึงทำให้มนุษย์พากันยึดมั่นถือมั่นสิ่งต่างๆ ว่ามีอัตตาที่จะสามารถยึดครองได้
ประเด็นที่แตกต่างก็คือว่า ท่าทีของซาร์ตร์กับพุทธปรัชญาเถรวาทที่เกี่ยวกับความหมายของหลักอนัตตานั้น ดูประหนึ่งว่ามิได้แตกต่างกัน แต่หากศึกษาลึกลงไปในรายละเอียดแล้วจะพบว่า ทัศนะดังกล่าวนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซาร์ตร์พยายามที่ใช้ทฤษฎีอนัตตาที่ตัวเองได้นำเสนอขึ้นมานั้น เป็นแรงสนับสนุนหลักการแห่งเสรีภาพ เสรีภาพที่พ้นจากการแทรกแซง การบังคับ หรือการใช้อำนาจทางอ้อม รวมไปถึงกระบวนการในการเลือกที่กระทำตามดำริของตนเองอย่างเสรี นอกจากนั้นซาร์ตร์ยังใช้ทฤษฎีอนัตตาปฏิเสธระบบปรัชญาที่มองเห็นว่ามีอัตตาเป็นศูนย์กลาง ในการปฏิเสธอัตตาของซาร์ตร์นั้น เขามุ่งเน้นให้มนุษย์เสาะแสวงหาสิ่งต่างๆ เพื่อเติมความเป็นมนุษย์ให้เต็ม โดยมองเห็นว่าหากพยายามเติมสิ่งต่างๆ ลงไปในตัวมนุษย์มากเท่าใดจะทำให้ความเป็นมนุษย์มีค่ามากขึ้นเท่านั้น ผลก็คือมนุษย์ต้องประสบความทุกข์ อันเกิดจากการที่มนุษย์จะต้องหลอกตัวเอง และแปลกแยกกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะสิ่งที่เสาะแสวงหานั้น มิใช่ความสุขที่แท้จริง ทั้งๆ ที่ซาร์ตร์ก็รู้ว่า วิธีการเหล่านั้นมิใช่ทางแห่งความสุขที่แท้จริง แต่เขาก็มิได้นำเสนอวิธีปฏิบัติ เพื่อที่จะละอัตตา หรือหยุดการแสวงหาสิ่งภายนอกโดยหันมาแสวงหาความสุขภายใน
พุทธปรัชญาเถรวาทนั้น มุ่งเน้นให้มนุษย์แสวงหาความสุขภายใน แสวงหาความอิสระของจิตใจมากกว่าที่จะไปมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อสิ่งภายนอก หรือความอิสระภายนอก เพราะความสุขอันเกิดจากการยึดมั่นถือมั่นในสิ่งภายนอกนั้น แท้ที่จริงแล้วมันมิใช่ความสุขที่เที่ยงแท้ถาวร ความสุขที่แท้จริงก็คือความสุขอันเกิดจากการที่มนุษย์มีสภาพจิตใจที่เป็นอิสระทั้งภายนอกและภายใน ไม่ตกเป็นทาสของอวิชชา ตัณหา อุปาทานต่างๆ ที่เกาะเกี่ยวพันธนาการมนุษย์เอาไว้
download |