จากการศึกษาเปรียบเทียบเกณฑ์ตัดสินจริยธรรมของอาริสโตเติลและ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พบว่า จุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตมนุษย์คือ ความสุข พระพรหมคุณาภรณ์ให้ความสำคัญกับสภาวะที่เรียกว่า “นิพพาน” ซึ่งเป็นสภาวะที่หลุดพ้น จากกิเลส เกิดจากความสงบในจิตใจของบุคคลที่เข้าถึงสภาวะนั้น บุคคลใดที่สามารถเข้าถึงสภาพความสุขแบบนี้เรียกว่า “อริยบุคคล” แต่ความสุขในทรรศนะของอาริสโตเติลนั้นเรียกว่า “Eudaimonia” ซึ่งเป็นผลมาจากการกระทำตามหน้าที่อย่างสมบูรณ์ซึ่งบุคคลนั้นสามารถรับรู้ได้ด้วยตนเอง บุคคลใดที่สามารถเข้าถึงความสุขลักษณะนี้ได้เรียกว่าเป็นผู้มีความสุขแบบเทพมี
ผู้ที่จะเข้าถึงความสุขสูงสุดนั้นได้จะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในคุณธรรมศีลธรรม ซึ่งแสดงถึงคุณลักษณะอุปนิสัยที่ดี คุณธรรม ศีลธรรม ของอาริสโตเติลและ พระพรหมคุณาภรณ์จึงมีลักษณะที่ไม่แตกต่างกัน แต่มีบางทรรศนะที่มีลักษณะที่ต่างกันนั่นคือ อาริสโตเติลกล่าวว่าทุกคนจะมีคุณธรรมที่สมบูรณ์ได้นั้นจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่ถูกต้อง ในทรรศนะของพระพรหมคุณาภรณ์กล่าวว่าทุกคนจะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความรักความเมตตาต่อกันทุก ๆ คนจะต้องไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน
นักปราชญ์ทั้ง ๒ ท่านมีทรรศนะเกี่ยวกับคุณค่าทางจริยธรรมทั้งการกระทำดีและการกระทำชั่วทุก ๆ การกระทำมีคุณค่าอยู่ในตัวการกระทำนั้นทั้งสิ้น เกณฑ์ตัดสินจริยธรรมที่ดูจากการกระทำ อาริสโตเติลและพระพรหมคุณาภรณ์เห็นว่าการกระทำต่าง ๆ เกิดจากการเลือก การพิจารณาและความรับผิดชอบมนุษย์สามารถควบคุมการกระทำต่าง ๆ ได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง
ดังที่กล่าวมาข้างต้นเป็นองค์ประกอบของเกณฑ์ตัดสินจริยธรรม ในเกณฑ์ตัดสินจริยธรรมตามทรรศนะอาริสโตเติลยึดหลักความจงใจและความไม่จงใจเป็นเกณฑ์ใน การตัดสินการกระทำดี ชั่ว การกระทำใดที่เกิดจากการไม่จงใจหรือกระทำโดยความโง่เขลา การกระทำนั้นก็สมควรที่จะให้อภัย แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดจากความจงใจ ถือว่าเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยปัญญาและเหตุผลก็สามารตัดสินได้ตามหลักมัชฌิม อนึ่งตามทรรศนะของพระพรหมคุณาภรณ์ถือเอาเกณฑ์ตัดสินจริยธรรมโดยเน้นที่เจตนาเป็นสำคัญ โดยยึดเกณฑ์หลัก คือ เจตนาที่เป็นกุศลและอกุศล เกณฑ์รอง คือ ให้วิญญูชนพิจารณาการกระทำนั้นว่าเป็นที่ยอมรับหรือไม่
|