การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและอุปสรรคการทำงานวิจัยในชั้นเรียนของครูประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๒ (๒) เพื่อศึกษาระเบียบวิธีวิจัยทางการศึกษาและวิธีการปฏิบัติตามหลักอริยสัจ ๔ (๓) เพื่อเสนอแนวทางการทำวิจัยในชั้นเรียนตามหลักอริยสัจ ๔ สำหรับครูประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในกาวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียนหรือครู (คศ.๓) โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒ จำนวน ๑๐ ท่าน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ข้อมูลเชิงลึก
ผลการวิจัยพบว่า
สภาพปัจจุบัน ปัญหาและอุปสรรคการทำงานวิจัยในชั้นเรียนของครูประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๒ แบ่งออกเป็น ๓ ด้าน คือ ด้านผู้สอน ด้านวิธีการสอน และด้านผู้เรียน
๑. ด้านผู้สอน ครูมีความรู้ในการทำงานวิจัยในชั้นเรียนค่อนข้างน้อย ขาดความมั่นใจกลัวการทำวิจัย เห็นว่า การทำวิจัยในชั้นเรียนเป็นเรื่องที่ยุ่งยากต้องทำนวัตกรรมเครื่องมือหาต้องค่าต่าง ๆ ครูมีภาระงานมากอยู่แล้ว ทำงานวิจัยออกมาแล้ว ทำให้งานวิจัยไม่มีประสิทธิ์ภาพ เพราะขาดที่ปรึกษาในการทำวิจัย
๒. ด้านวิธีการสอนในรูปแบบใหม่ การวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาส่งเสริมตัวผู้เรียน เพื่อหาวิธีการสอนในรูปแบบใหม่ คือ การสร้างเครื่องมือ นวัตกรรม บทเรียนสำเร็จรูป หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ครูจะสามารถนำมาพัฒนาส่งเสริมให้ผู้เรียนมีศักยภาพและผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ดียิ่งขึ้นไป
๓. ด้านผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ไม่เป็นไปตามจุดประสงค์ นักเรียนเรียนไม่ทันเพื่อน มีพัฒนาการในการเรียนรู้ช้ากว่าเพื่อนในห้อง และมีพฤติกรรมก่อกวนก้าวร้าว
สามารถนำเอามาเป็นแนวทางการทำวิจัยในแบบบูรณาการหลักพุทธธรรมเข้าไปในกระบวนการการวิวิจัยในชั้นเรียน คือ ทุกข์ ปัญหาที่เกิดขึ้นในการเรียนการสอน สมุทัย ก็คือการหาทางการแก้ปัญหาที่จะทำให้ปัญหานั้นหายไป นิโรธ คือการดำเนินการทำวิจัยแล้วนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ และ มรรค คือการสรุปผลการทำวิจัย เห็นได้ว่า หลักธรรมอริยสัจอริยสัจสี่และการทำวิจัยในชั้นเรียนมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกันจริง
Download
|