การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้วิชาพลศึกษาตามหลักพุทธบริหารการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาอำเภอบางปะอินสังกัดสำนักงาเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒ เพื่อวิเคราะห์สภาพการจัดการเรียนรู้ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้วิชาพลศึกษาตามหลักพุทธบริหารการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาอำเภอบางปะอินสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒ และเพื่อเสนอแนวการจัดการเรียนรู้ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้วิชาพลศึกษาตามหลักพุทธบริหารการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาอำเภอบางปะอินสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒ โดยใช้การวิจัยแบบผสมผสานระหว่างเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและสัมภาษณ์โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นครูจำนวน ๑๓๖ คน วิเคราะห์โดยหาค่าเฉลี่ยค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัยพบว่า
๑. สภาพการจัดการเรียนรู้ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้วิชาพลศึกษาตามหลักพุทธบริหารการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาอำเภอบางปะอินสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒ ทั้ง ๒ ด้าน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
๒. ผลการวิเคราะห์สภาพการจัดการเรียนรู้ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้วิชาพลศึกษาตามหลักพุทธบริหารการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาอำเภอบางปะอินสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒ ครูต้องมีความรักในอาชีพของครูพบว่าโดยมีความภาคภูมิใจในการสอนโดยพอใจและรักในอาชีพและเมตตาต่อศิษย์จัดครูสอนให้ตรงตามความรู้และความสามารถ มีจรรยาบรรณของความเป็นครูคือรักและศรัทธาในอาชีพความเป็นครูมีการส่งเสริมขวัญและกำลังใจ รางวัล สวัสดิการต่างๆเอาใจใส่ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของนักเรียน
๓. แนวทางการจัดการเรียนรู้ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้วิชาพลศึกษาตามหลักพุทธบริหารการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาอำเภอบางปะอินสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒ โดยครูจะต้องมีความสุขในการปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของครูแต่ละบุคคลรักและสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมในเนื้อหาสาระจากสื่อทุกประเภทและเป็นแบบอย่างที่ดีและสอนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมไว้ในเนื้อหาเพื่อปลูกฝังนักเรียนให้เป็นคนดีกระตุ้นการจัดการเรียนการสอนเอาใจใส่ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสวัสดิการเพื่อกระตุ้นครูให้เอาใจใส่ในการจัดการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้นประเมินผลการทำงานของนักเรียนเป็นรายบุคคลด้วยการพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น
Download |