การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) ศึกษาการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี (๒) เปรียบเทียบการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (๓) ศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี โดยในส่วนของการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลภาคสนามจากพระสงฆ์ในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จำนวน ๑๙๐ รูป วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที และ ค่าเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพมีการวิเคราะห์เอกสาร และใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลภาคสนามจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๑๒ รูป/คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๓๖ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านนิติธรรม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๕๖ ส่วนด้านอื่น ๆ ที่เหลือ อยู่ในระดับปานกลาง
๒. ผลการเปรียบเทียบการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลของพระสงฆ์ ได้แก่ ตำแหน่ง อายุ พรรษา วุฒิการศึกษาสามัญ และวุฒิการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม มีผลให้ความคิดเห็นที่มีต่อการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริการกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยภาพรวม ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐาน
๓. ปัญหา อุปสรรคต่อการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการปกครองคณะสงฆ์ของ พระสังฆาธิการอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พบว่า ด้านนิติธรรม บางวัดขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี, ด้านคุณธรรม บางวัดมีปัญหาความไม่สามัคคีกันของพระภิกษุสามเณรภายในวัด, ด้านความโปร่งใส การก่อสร้างของบางวัดไม่โปร่งใส, ด้านความมีส่วนร่วม บางวัดไม่ได้รับฟังปัญหาและความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง, ด้านความรับผิดชอบ พระสังฆาธิการบางรูปขาดการเอาใจใส่ดูแลผู้ใต้ปกครอง, ด้านความคุ้มค่า บางวัดไม่ได้ให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลเกี่ยวกับเรื่องการเงิน และข้อเสนอแนะต่อการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พบว่า ด้านหลักนิติธรรม ควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบระเบียบ ข้อบังคับ และนโยบายการบริหารของวัด, ด้านหลักคุณธรรม ควรปลูกฝังความสามัคคีแก่ภิกษุสามเณรและบุคลากรของวัด, ด้านหลักความโปร่งใส ควรจัดประมูลรับเหมาก่อสร้างในโครงการต่าง ๆ ของวัดโดยเปิดเผย, ด้านหลักการมีส่วนร่วม ควรจัดเวทีสำหรับรับฟังปัญหาและความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างน้อยปีละครั้ง, ด้านหลักความรับผิดชอบ เจ้าอาวาสควรใส่ใจในทุกข์สุขของพระภิกษุสามเณรในปกครอง, ด้านหลักความคุ้มค่า ควรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายประชาชนทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ
Download |