การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) ศึกษาการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (๒) เปรียบเทียบความเห็นต่อการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (๓) ศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยในส่วนของการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลภาคสนามจากพระสงฆ์ในอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน ๑๖๘ รูป วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าทีและค่าเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว เมื่อพบความแตกต่าง จึงทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นคู่ ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด และในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพมีการวิเคราะห์เอกสาร และใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลภาคสนามจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๑๒ รูป/คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท

             ผลการวิจัยพบว่า

                 ๑. การพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๐๗ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการปกครองตามหลักพระธรรมวินัย อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๐๗ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านการปกครองโดยเอื้อเฟื้อต่อพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ และพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๐๖

             ๒. ผลการเปรียบเทียบความเห็นของพระสงฆ์ต่อการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า อายุ และวุฒิการศึกษาสามัญ มีผลให้ความคิดเห็นต่อการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ และพรรษามีผลให้ความคิดเห็นต่อการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลอื่น ๆ ไม่พบความแตกต่าง

             ๓. ปัญหา อุปสรรคต่อการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า พระภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่บางรูปขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการประพฤติตนให้เหมาะสม, กฎระเบียบภายในของบางวัดออกโดยผู้ปกครองเพียงผู้เดียว, การร่วมประชุมกันมีน้อย, พระสังฆาธิการบางรูปขาดประสบการณ์การทำงาน และข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า ควรให้ความสำคัญกับการอบรมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการประพฤติตนให้เหมาะสมตามหลักพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัดแก่พระภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่, การออกกฎ ระเบียบภายในวัด นอกจากต้องเป็นไปตามหลักพระธรรมวินัยแล้ว ควรจัดประชุมโดยให้ผู้ใต้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการบัญญัติ กฎ ระเบียบ แสดงทัศนะ แล้วจึงตั้งโดยใช้มติในที่ประชุมนั้น, ควรจัดประชุมคณะสงฆ์ร่วมกันทั้งในระดับอำเภอตำบล และในระดับวัด เป็นประจำทุกเดือน และผู้ปกครองคณะสงฆ์ทุกระดับชั้น ควรลงพื้นที่เพื่อดูแล ให้คำปรึกษา และบำรุงขวัญกำลังใจแก่ผู้ใต้ปกครองเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระสังฆาธิการผู้มีประสบการณ์การทำงานน้อย

Download