การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการในอำเภอ โพธาราม จังหวัดราชบุรี ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการ ในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล ๓) เพื่อนำเสนอแนวทางการบริหารจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของ พระสังฆาธิการในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ดำเนินการวิจัยโดยวิธีการวิจัยแบบผสานวิธี โดยใช้ระเบียบวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามกับประชาชนที่มีอายุ ๑๘ ปี ขึ้นไป  จำนวน ๑๐๘,๑๔๗ คน ในเขตอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี แต่กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตร   ทาโร่ ยามาเน่ ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง ๓๙๙ ตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม โดยมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ ๐.๙๗๑ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่   ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน ใช้สถิติทดสอบค่าเอฟ (F-test) โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว ในกรณีที่มีตัวแปรสามกลุ่มขึ้นไป เปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด และการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญจำนวน ๑๒ รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็น แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา และข้อมูลจากการสัมภาษณ์ที่กำหนดไว้ จากนั้นจึงทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

              การบริหารจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการ ในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ด้านการดำเนินกิจการเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูล พระสงฆ์สนับสนุนส่งเสริมให้มีการอบรมและสอนศีลธรรมจริยธรรมเพื่อพัฒนาจิตใจแก่นักเรียนในสถานศึกษา และจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่นวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา เป็นต้น ด้านการช่วยเหลือเกื้อกูลกิจการของผู้อื่นเพื่อสาธารณประโยชน์ พระสงฆ์ประกาศให้สถานที่วัดเป็นสถานที่ปลอดสิ่งเสพติดให้โทษ อบายมุข การพนัน และเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ด้านการช่วยเหลือเกื้อกูลสถานที่อันเป็นสาธารณสมบัติ พระสงฆ์มีส่วนร่วม สนับสนุน ช่วยเหลือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การตักบาตรเทโวโรหณ เป็นต้น และสร้างพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวบรวมศิลปวัตถุหรือโบราณวัตถุ  ด้านช่วยเหลือเกื้อกูลประชาชนทั่วไป พระสงฆ์มีส่วนร่วม สนับสนุน ช่วยเหลือ ทุนการศึกษา อุปกรณ์การศึกษาแก่เด็กนักเรียน และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ

               เปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารจัดการงาน สาธารณสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล ประชาชนที่เพศและรายได้ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของ พระสังฆาธิการ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ไม่แตกต่างกัน ซึ่งปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ ประชาชนที่มีอายุ วุฒิการศึกษา อาชีพ  ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของ พระสังฆาธิการ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยภาพรวม มีความแตกต่างกัน ซึ่งยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้

              แนวทางการบริหารจัดการงานสาธารณสงเคราะห์  คณะสงฆ์ควรมีการจัดอบรมบุคลากร ในด้านการบริหารจัดการ การฝึกอบรมเพื่อการทำงานที่มีคุณภาพ เพื่อการปฏิบัติของคณะสงฆ์ต่อไป      ด้านการประชาสัมพันธ์ควรมีการวางแผนงานที่ดีและมีการแบ่งงานกระจายงาน จัดหางบประมาณและทุนในการดำเนินงานอย่างเพียงพอเหมาะสม และต้องร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานของเอกชน คณะสงฆ์ต้องให้ความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุน และเป็นศูนย์ประสานงานร่วมมือกัน เพื่อการทำงานจะได้มีทิศทางเดียวกัน มีการติดตามประเมินผล จัดหาและรับบริจาคสิ่งของ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ อุปกรณ์การแพทย์แก่โรงพยาบาล อุปกรณ์การศึกษาแก่นักเรียน มีการสร้างกิจกรรมและส่งเสริมการมีส่วนกับชุมชนและควรจัดอย่างต่อเนื่องมีแบบแผนที่ชัดเจน,มั่นคง,ยั่งยืน

 Download