การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) ศึกษาการพัฒนาวัดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม (๒) เปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อการพัฒนาวัดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (๓) ศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาวัดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยในส่วนของการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลภาคสนามจากพระสงฆ์ในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน ๒๓๓ รูป วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที และค่าเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพมีการวิเคราะห์เอกสาร และใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลภาคสนามจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๑๒ รูป/คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การพัฒนาวัดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๒ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านบุคลากร อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๘๘ ด้านงบประมาณ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๘๕ ด้านวัสดุอุปกรณ์ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๔ และด้านการจัดการ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๙
๒. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อการพัฒนาวัดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ ตำแหน่ง มีผลให้ความคิดเห็นต่อการพัฒนาวัดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เหลือ ไม่พบความแตกต่าง
๓. ปัญหา และอุปสรรคต่อการพัฒนาวัดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม พบว่า พระภิกษุสามเณรส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม พระสงฆ์ไม่ควรทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ งบประมาณมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ไม่สามารถใช้งานวัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคุ้มค่า ขาดการวางแผนร่วมกันระหว่างฝ่ายศาสนากับหน่วยงานของรัฐ ขาดการจัดทำแผนพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม และข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาวัดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม พบว่า ควรพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแก่พระภิกษุและสามเณรยิ่งขึ้น ในส่วนของการห้ามพระสงฆ์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ ควรปรับเปลี่ยนรูปแบบของการดำเนินกิจกรรม โดยอบรมให้ความรู้แก่เยาวชนเพื่อพัฒนาให้เยาวชนสามารถทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ประจำวัดหรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่อยู่ในพื้นที่วัด ควรจัดทำแผนงบประมาณ ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ควรส่งเสริมการใช้วัสดุอุปกรณ์ด้วยความคุ้มค่าตามหลักการของธรรมาภิบาล ควรจัดส่งพระสงฆ์เป็นตัวแทนของวัด เข้าประชุมร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐหรือองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อวางแผนดำเนินงานในโครงการต่าง ๆ และควรจัดทำแผนพัฒนาวัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมระยะยาว อาทิ แผน ๓ ปี หรือ แผน ๕ ปี
Download |