การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวความคิดทางการเมืองของเพลโต กับของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) และเปรียบเทียบแนวความคิดทางการเมือง ของทั้งสองท่าน ผลการศึกษาพบว่า แนวความคิดทางการเมืองของเพลโตเกิดจากสภาพความ ปั่นป่วนในนครเอเธนส์ เป็นเหตุให้โสคราตีสผู้เป็นอาจารย์ถูกประหาร เพราะวิพากษ์วิจารณ์ สังคมการเมือง เมื่อนครเอเธนส์อยู่ภายใต้การปกครองของสปาร์ตาแล้ว เพลโตก็ออก ท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อแสวงหาความรู้เพิ่มเติม กลับมาสู่เอเธนส์เพื่อตั้งสำนักอคาเดมี เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางถ่ายทอดความรู้ทางการศึกษาและการเมืองแก่สังคม ลักษณะผู้นำทาง การเมืองที่ดีจะต้องมีร่างกายแข็งแรงและจิตแจ่มใส ราชาปราชญ์ที่เป็นผู้ปกครองต้องมีความรู้ ลักษณะการเมืองที่ดีต้องให้การศึกษาแก่ประชาชน รูปแบบการปกครองที่ดีของเพลโตก็คือ อภิชนาธิปไตย อิทธิพลของศาสนาที่มีต่อแนวความคิดทางการเมืองของเพลโตเชิง อภิปรัชญาอยู่ในโลกของแบบ จุดเด่นการพัฒนาทางการเมืองนั้นต้องเคร่งครัดในกฎระเบียบ และจุดอ่อนทางการเมืองอยู่ที่ประชาชนขาดการศึกษา นักการเมืองเห็นประโยชน์ตนสำคัญ กว่ารัฐ ส่วนแนวความคิดทางสังคมการเมืองของเพลโตอยู่ที่การแบ่งงานกันทำ ปัญหา สังคมการเมืองมาจากความคิดจินตนาการเกินความจริง ความเข้มแข็งทางการเมืองอยู่ที่ การจัดตั้งองค์กรแบบมีส่วนร่วม อิทธิพลของมนุษย์ที่มีต่อการสรรค์สร้างสังคมการเมืองก็คือการพัฒนาจิต การศึกษาที่เป็นเครื่องมือพัฒนาสังคมก็คือเลขคณิต เลขาคณิต และดารา ศาสตร์ แนวความคิดทางการเมืองของพระพรหมคุณาภรณ์มาจากพระพุทธศาสนา ตาม แนวความคิดของท่านนักการเมืองจะต้องมีคุณธรรม รูปแบบการเมืองที่ดีมีราชาธิปไตยกับ ประชาธิปไตย อิทธิพลชาดกในศาสนามีต่อแนวความคิดทางการเมือง โดยมองปัญหาการเมือง ในเชิงพัฒนาได้มาจากความจริงของความเป็นมนุษย์ และความเมตตาที่เป็นสากล จุดเด่น ระบบราชาธิปไตยอยู่ที่การแสวงหาอำนาจมาพัฒนาความสงบสุขของประชาชน และจุดเด่น ระบบประชาธิปไตยอยู่ที่ความสามัคคีมีศีลธรรม ส่วนจุดอ่อนอยู่ที่การใช้เสียงข้างมาก ปราศจากความยุติธรรมและความถูกต้อง ส่วนแนวความคิดทางสังคมการเมืองของ พระพรหมคุณาภรณ์อยู่ที่การศึกษาเพื่อให้คนบรรลุเป้าหมาย มองปัญหาทางสังคมมาจาก การขาดสิทธิเสรีภาพและความไม่เสมอภาค เสนอทางออกต่อสังคมการเมืองในการสร้าง จริยธรรมนักการเมือง สร้างสรรค์ธรรมาธิปไตยให้เป็นพื้นฐานประชาธิปไตย อิทธิพลของ มนุษย์ที่มีต่อการสรรค์สร้างสังคมการเมืองมีกลุ่มนักการเมือง กลุ่มผู้นำทั่วไป และกลุ่มผู้นำ ศาสนา ซึ่งการศึกษาที่เป็นเครื่องมือพัฒนาสังคมก็คือไตรสิกขา ผลจากการศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบ แนวความคิดทางการเมืองของเพลโตกับ ของพระพรหมคุณาภรณ์ผู้ปกครองที่ดีเหมือนกัน เพลโตยกย่องการปกครองแบบอภิชนาธิปไตย พระพรหมคุณาภรณ์ได้ให้ความสนใจการปกครองแบบราชาธิปไตยกับแบบประชาธิปไตย อิทธิพลของศาสนาต่อแนวความคิดทางการเมืองแตกต่างกัน การมองปัญหาการเมืองใน เชิงพัฒนาเหมือนกันคือจะต้องพัฒนาการศึกษา จุดเด่นทางการเมืองเหมือนกันคือการมี กฎระเบียบ จุดอ่อนทางการเมืองอยู่ที่ตัวบุคคลผู้ที่เป็นนักปกครองขาดคุณธรรม ส่วนสังคม ทางการเมืองที่ดีแตกต่างกัน เพลโตยกย่องเรื่องการแบ่งงานกันทำและเน้นการจัดตั้งองค์กร พระพรหมคุณาภรณ์ยกย่องการมีคุณธรรมและเน้นความสามารถของบุคคล อิทธิพลของ มนุษย์ต่อการสรรค์สร้างสังคมทางการเมือง และการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมทางการเมือง เหมือนกัน ตลอดทั้งการประยุกต์ใช้แนวความคิดทางการเมืองของทั้งสองท่านในระบบ การเมืองไทย มีหลักการปกครองตามหลักอุตมรัฐ และหลักอธิปไตย ๓ เพื่อใช้เป็นพื้นฐาน การพัฒนาสังคมการเมืองที่ดี Download : 254985.pdf