การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) เพื่อศึกษาประสิทธิผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อประสิทธิผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล (๓) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะสำหรับพัฒนาประสิทธิผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยในการศึกษาครั้งนี้ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี คือ การวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๓๒๓ คน สถิติที่ใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ๑๒ รูป/คน
ผลการวิจัย พบว่า:
๑. ประสิทธิผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประสิทธิผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในระดับมากทุกด้าน
๒. ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของนักเรียนต่อการพัฒนาประสิทธิผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล พบว่า นักเรียนที่มีชั้นปีที่ศึกษา และอายุ มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาประสิทธิผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓. ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะสำหรับพัฒนาประสิทธิผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า ปัญหาและอุปสรรค คือ ไม่มีการจัดเตรียมสื่อการเรียนรู้พระพุทธศาสนานอกสถานที่ ขาดการใช้สื่อที่เน้นนักเรียนค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ไม่มีการจัดห้องเรียนที่สร้างสรรค์ความรู้ด้วยลักษณะทางธรรมชาติ การสร้างบรรยากาศที่สงบ มีเสียงและแสงที่จะรบกวนนักเรียนให้น้อยที่สุด ขาดการจัดการเรียนการสอนเน้นให้นักเรียนฝึกคิดพิจารณา ฝึกปฏิบัติให้ผลด้วยตนเองการจัดการเรียนการสอนแบบอุปมาอุปไมย สรุปเนื้อหาเปรียบเทียบยกตัวอย่างมาประกอบ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจง่ายมองภาพชัดเจน เพื่อปรับปรุงการเรียนของนักเรียนโดยเน้นความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เน้นกระบวนการคิด การประยุกต์ใช้ ข้อเสนอแนะ พบว่า มีการจัดเตรียมสื่อการเรียนรู้พระพุทธศาสนานอกสถานที่ การใช้สื่อที่เน้นนักเรียนค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง และควรมีการจัดเตรียมสื่อมุ่งเน้นการพัฒนาคนให้เกิดความรู้ความเข้าใจวิชาพระพุทธศาสนา มีทัศนคติที่ดีงาม ควรมีการจัดห้องเรียนที่สร้างสรรค์ความรู้ด้วยลักษณะทางธรรมชาติ การสร้างบรรยากาศที่สงบ มีเสียงและแสงที่จะรบกวนนักเรียนให้น้อยที่สุดและควรมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้สะอาด เป็นระเบียบสวยงาม สร้างความสดชื่นเบิกบานให้กับผู้เรียน ควรมีการจัดการเรียนการสอนเน้นให้นักเรียนฝึกคิดพิจารณา ฝึกปฏิบัติให้ผลด้วยตนเอง การจัดการเรียนการสอนแบบอุปมาอุปไมย สรุปเนื้อหาเปรียบเทียบยกตัวอย่างมาประกอบ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจง่ายมองภาพชัดเจน และควรมีการจัดการเรียนการสอนด้วยการฝึกอบรมด้านความประพฤติ ความมีระเบียบวินัย ควรมีการวัดผลและประเมินผลโดยต่อเนื่อง ด้วยการเลือกใช้วิธีการที่หลากหลาย และเหมาะสมและมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเรียนของนักเรียน อีกทั้งควรมีการวัดผลและประเมินผลโดยเน้นความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เน้นกระบวนการคิด การประยุกต์ใช้ และการปรับปรุงให้เหมาะสม
Download |