ดุษฎีนิพนธ์เรื่อง “แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศไทยเชิงพุทธบูรณาการ” มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ ได้แก่ (๑) เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และสภาพปัญหาของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศไทย (๒) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศไทย (๓) เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาจริยธรรมของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศไทยเชิงพุทธบูรณาการ งานวิจัยเรื่องนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพโดยศึกษาจากเอกสารและการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยกำหนดกรอบการวิจัยตามวัตถุประสงค์ ด้วยวิธีการพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า
จากแนวคิดทฤษฎีด้านสื่อสารมวลชนได้กล่าวถึงการกระทำผิดจริยธรรมของสื่อสารมวลชนไว้หลายประการ เช่น การโกหกและหลอกลวงเสนอข่าวสารข้อมูลที่ไม่จริง การมีอคติลำเอียงที่ฝืนต่อจริยธรรม การมีผลประโยชน์ทับซ้อนของสื่อมวลชน และการขาดความเมตตาธรรมของสื่อ เป็นต้น
ปัญหาด้านจริยธรรมของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ดาวเทียม ส่วนใหญ่ยังขาดจริยธรรม ขาดความรับผิดชอบต่อวิชาชีพในการปฏิบัติงาน ได้แก่ ปัญหาการประทุษร้ายทางวาจา ปัญหาการสร้างความเกลียดชัง ปัญหาการสร้างความแตกแยกในสังคม ปัญหาการโฆษณาเกินจริง ปัญหาการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ปัญหารายการชวนเชื่อ งมงาย ไร้สาระ และปัญหารายการที่ส่อไปในทางลามก อนาจาร ซึ่งจะมีผลกระทบในทางลบต่อผู้ชมและสังคม ซึ่งหากยังไม่ได้รับการแก้ไขย่อมจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในวงกว้างเนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคที่รับชมโทรทัศน์ดาวเทียมมีเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ
หลักพุทธธรรมที่สอดคล้อง ในการนำมาใช้บูรณาการกับวิธีการพัฒนาจริยธรรม เพื่อใช้แก้ไขปัญหาในปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วย หลักอริยมรรคมีองค์ ๘ หลักเบญศีล เบญจธรรม หลักพรหมวิหาร ๔ และหลักอคติ ๔ ซึ่งสรุปได้ ๔ วิธีเชิงพุทธบูรณาการ ดังต่อไปนี้
๑) หลักมรรคมีองค์ ๘ นำมาบูรณาการกับวิธีการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมวิชาชีพสื่อสารมวลชนฉบับใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทุกสื่ออยู่ภายใต้องค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชนอันเดียวกัน เพื่อให้มีการควบคุมและกำกับดูแลกันเอง (Self Regulation) จะทำให้เกิดผลเป็นความประพฤติที่ถูกต้องดีงามทั้งกาย วาจา ใจ
๒) หลักเบญจศีล, เบญจธรรม นำมาบูรณาการกับวิธีการหยุดยั้งหรือไม่สนับสนุนช่องโทรทัศน์ดาวเทียมที่กระทำผิดกฎหมาย หรือกระทำผิดจริยธรรม มีบทลงโทษในทางปฏิบัติที่เคร่งครัดชัดเจนจาก กสทช.จะทำให้มีความประพฤติที่คิดถูก พูดถูก ทำถูก ไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฏหมาย ไม่ทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม
๓) หลักพรหมวิหาร ๔ นำมาบูรณาการกับการส่งเสริมวิชาชีพสนับสนุนให้มีการจัด Forum การอบรม การเข้าค่าย สัมมนา โดย กสทช. และหน่วยงานองค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน โดยใช้การจัดสนทนาแบบ Dialogue และ Collaborative ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือ มีความปรารถนาดีต่อกัน มีความรักความเมตตา จะทำให้เกิดผลเป็นความประพฤติที่ประกอบด้วยความรัก ความปรารถนาดี อยากให้เขาพ้นทุกข์อย่างมีปัญญา
๔) หลักอคติ ๔ นำมาบูรณาการกับการส่งเสริมสนับสนุนให้มีผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานภายนอก กสทช. ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกระเบียบ ข้อบังคับ แนวทางในการปฏิบัติและบทลงโทษต่างๆ อย่างเป็นธรรมและเป็นกลางในเรื่องความผิดทางจริยธรรม รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ประกอบกิจการได้นำเสนอข่าวหรือรายการด้วยความเป็นกลาง เหมาะสม ปราศจากอคติต่างๆ จะทำให้เกิดผลเป็นความประพฤติที่มีความเที่ยงตรง ยุติธรรม เป็นกลาง ไม่เอนเอียง
จากที่กล่าวมานี้ ผู้วิจัยสามารถสรุปองค์ความรู้ใหม่ที่ได้จากการวิจัย คือ
"NFFFP = GOOD SATELLITE TV OPERATOR MODEL" โดยมีรายละเอียดดังนี้ “N”(THE NOBLE EIGHTFOLD PATH) คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ “F”(FIVE PRECEPTS) “F”(FIVE DHARMA) คือ เบญจศีล เบญจธรรม “F”(FOUR SUBLIME STATES OF MIND) คือ พรหมวิหาร ๔ และ “P”(PREJUDICE) คือ อคติ ๔
Download
|