ดุษฎีนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ๓ ประการ ดังนี้ คือ ๑. เพื่อศึกษาแนวทางการสื่อสารเชิงพุทธเพื่อสันติสุข ๒. เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการสื่อสารในสังคมไทย ๓. เพื่อวิเคราะห์แนวทางการสื่อสารเชิงพุทธสันติสุขในสังคมไทย
ผลการวิจัยพบว่า แนวทางการสื่อสารเชิงพุทธเพื่อสันติสุข เป็นแนวทางการสื่อสารด้วยหลักสัมมาวาจาซึ่งเป็นทางสายกลางในมรรคมีองค์ ๘ คือ วจีสุจริต ๔ อย่าง (๑) เจตนางดเว้นจากการพูดเท็จ (๒) เจตนางดเว้นจากการพูดส่อเสียด (๓) เจตนางดเว้นจากการพูดหยาบ (๔) เจตนางดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ และหลักวาจาสุภาษิต คือ (๑) พูดถูกกาล (๒) พูดคำจริง (๓) พูดคำอ่อนหวาน (๔) พูดคำมีประโยชน์ และ (๕) พูดด้วยเมตตาธรรมไม่มีอคติ ในขณะเดียวกัน พระพุทธเจ้าในฐานะผู้สื่อสารถือได้ว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลที่รู้จักกาลเทศะ บุคคล และกลุ่มบุคคล อย่างแท้จริง และทรงมีพระกรุณาต่อมหาชนจึงทรงสื่อสารอย่างมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สุขของมหาชน ผู้รับสารที่มีสติปัญญาจึงศรัทธารับฟังจนบรรลุเป้าหมายที่เป็นสันติสุขในชีวิต การศึกษาสภาพปัญหาการสื่อสารในสังคมไทย พบว่า มีการสื่อสารที่ประกอบด้วย ๔ ลักษณะ คือ (๑) สื่อสารด้วยวาจาเท็จ (๒) สื่อสารด้วยวาจาส่อเสียด (๓) สื่อสารด้วยวาจาหยาบ (๔) สื่อสารด้วยวาจาเพ้อเจ้อ ทางสื่อออนไลน์อันเป็นสาเหตุให้เกิดคำว่า “Hate speech” ก็คือวจีทุจริต ๔ ซึ่งเป็นการพูดหรือการเขียนที่สร้างความเกลียดชังต่อกัน เป็นบ่อเกิดแห่งสงครามที่หักล้างผลประโยชน์กันทางสังคมการเมือง เศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตปกติของคนในสังคมไทยและสังคมโลกในขณะนี้ แนวทางการสื่อสารเชิงพุทธเพื่อสันติสุขในสังคมไทยตามแนวทางพระพุทธศาสนา ควรนำหลักวจีสุจริต ๔ ประการ คือ (๑) ไม่พูดเท็จ (๒) ไม่พูดส่อเสียด (๓) ไม่พูดหยาบ (๔) ไม่พูดเพ้อเจ้อ ร่วมกับสารณียธรรม ๖ ประการ คือ (๑) ให้มีเมตตากายกรรม (๒) ให้มีเมตตาวจีกรรม (๓) ให้มีเมตตามโนกรรม (๔) การแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมอย่างสม่ำเสมอกัน (๕) การมีความประพฤติถูกต้องบริสุทธิ์เหมือนกัน (๖) มีความเห็นสอดคล้องกันในทิศทางเดียวกัน ธรรม ๖ ประการนี้ มีคุณ ทำให้เป็นที่ระลึก ทำให้เป็นที่รัก ทำให้เป็นที่เคารพ เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์ เพื่อความไม่วิวาท เพื่อความสามัคคี และเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
Download
|