การศึกษาวัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาหลักเศรษฐกิจในพระพุทธศาสนาเถรวาท ๒) เพื่อการเสริมสร้างความเข็มแข็งด้วยหลักเศรษฐกิจเชิงพุทธของกลุ่มเกษตรกรในเขตอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม โดยใช้วิธีการวิจัยเอกสาร และการวิจัยภาคสนาม โดยผู้วิจัยได้ดำเนินการประมวลผลการศึกษาแล้วนำเสนอข้อมูลการวิจัยเชิงพรรณนาวิเคราะห์ พบว่า
หลักเศรษฐกิจในพระพุทธศาสนาเถรวาท ในงานวิจัยมีอยู่ ๓ ประการ คือ การผลิต การจำหน่ายและการบริโภค ที่เน้นการมีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นที่ถูกต้องชอบธรรม มีเหตุ มีผล ในการผลิตมีการจำหน่ายและบริโภควัตถุเพื่อสร้างประโยชน์แก่สังคม ใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติให้คุ้มค่าด้วยปัญญา ไม่ส่งเสริมการผลิตแบบทุนนิยมและบริโภคด้วยตัณหา แต่เน้นให้ผลิตด้วยปัญญาค่อยเป็นค่อยไปตามเหตุปัจจัยและรู้จักประมาณในปัจจัย ๔ ที่สำคัญต้องตั้งอยู่บนประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่น อย่างถูกต้องและเป็นธรรม
สภาพทั่วไปของกลุ่มเกษตรในเขตอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการแบ่งกลุ่มเกษตรกรออกเป็น ๕ กลุ่มคือ กลุ่มบำนาญชาวนา กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ กลุ่มทำปุ๋ยชีวภาพ กลุ่มทำเครื่องจักสาน และกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทุกกลุ่มล้วนมีหลักการและวิธีการในการทำงาน กลุ่มบำนาญชาวนาเน้นเรื่อง ดิน นา ป่า น้ำ กลุ่มโรงปุ๋ยจะเน้นปุ๋ยที่เป็นชีวภาพ กลุ่มเครื่องจักสาน จะเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติในการผลิต กลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จะเน้นในเรื่องของการผลิตผ้าไหมส่งออก ทุกกลุ่มล้วนมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน โดยปัญหาที่พบแต่ละกลุ่มนั้นส่วนมากจะเป็นในเรื่องของภัยธรรมชาติ แหล่งน้ำมีสารเคมีตกค้างจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืช เรื่องของการขาดการประชาสัมพันธ์เพื่อเชื่อมโยงกับหน่วยงานของรัฐและเอกชน
การเสริมสร้างความเข็มแข็งด้วยหลักเศรษฐกิจเชิงพุทธของกลุ่มเกษตรกรในเขตอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มเกษตรกรได้นำหลักสัมมาอาชีวะ หลักทิฏฐธัมมิกัตถะ ๔, นาถกรณธรรม ๑๐, สังคหวัตถุ ๔, การละเว้นอคติ ๔, มัตตัญญุตา, โภควิภาค ๔ ซึ่งสิ่งสำคัญสุดของกลุ่มเกษตรกรคือการดำรงชีวิตตามหลักสันโดษและหลักมัตตัญญุตา ตรงกับหลักเศรษฐกิจเชิงพุทธที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การผลิตและจำหน่ายให้กับผู้บริโภคเพื่อหวังผลกำไรเท่านั้น แต่หมายเอาการได้พัฒนาองค์ประกอบทุกอย่างของชีวิต เช่น การรู้จักประมาณ การไม่เอารัดเอาเปรียบกันไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม และไม่ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยเกินฐานะของตน
Download
|