การศึกษา “การพัฒนาตัวชี้วัดหลักธรรมาภิบาลในพระพุทธศาสนาเถรวาทสำหรับบริหารจัดการวัด” มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการวัดในปัจจุบัน ๒) เพื่อศึกษาองค์ประกอบตัวชี้วัดธรรมาภิบาลในพระพุทธศาสนาเถรวาทสำหรับการบริหารจัดการวัด และ ๓) เพื่อพัฒนาตัวชี้วัดธรรมาภิบาลในพระพุทธศาสนาเถรวาทสำหรับบริหารจัดการวัด การศึกษาเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกลับกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ปกครองคณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมา กลุ่ม ๔
ผลการศึกษา พบว่า
๑) การบริหารจัดการวัดในปัจจุบัน นอกจากจะยึดหลักพระธรรมวินัยเป็นหลักแล้ว ยังต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย และขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคมไทย โดยมีเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารวัดตามกฎหมาย และมีคณะกรรมการวัดช่วยในการบริหารงาน ภาระกิจของวัดต่างจากอดีตที่มีเฉพาะงานด้านการปกครองและการศาสนศึกษา ปัจจุบันวัดต้องดำเนินภาระกิจทั้ง ๖ ด้าน ได้แก่ งานปกครอง งานเผยแผ่ งานศาสนศึกษา งานสาธารณูปการ งานศึกษาสงเคราะห์ และงานสาธารณสงเคราะห์
๒) ผลการศึกษาองค์ประกอบธรรมาภิบาลในพระพุทธศาสนาเถรวาทสำหรับบริหารจัดการวัด พบว่า งานปกครอง มีองค์ประกอบ ๑๘ ข้อ, งานเผยแผ่มีองค์ประกอบ ๑๒ ข้อ, งานศาสนศึกษา มีองค์ประกอบ ๑๓ ข้อ, งานสาธารณูปการมีองค์ประกอบ ๑๓ ข้อ, งานศึกษาสงเคราะห์ มีองค์ประกอบ ๑๒ ข้อ, และงานสาธารณสงเคราะห์ มีองค์ประกอบ ๑๓ ข้อ
๓) ผลการพัฒนาตัวชี้วัดธรรมาภิบาลในพระพุทธศาสนาเถรวาทสำหรับบริหารจัดการวัด พบว่า งานปกครอง มีตัวชี้วัด ๓๐ ข้อ, งานเผยแผ่มีตัวชี้วัด ๓๐ ข้อ, งานศาสนศึกษา มีตัวชี้วัด ๓๐ ข้อ, งานสาธารณูปการมีตัวชี้วัด ๓๐ ข้อ, งานศึกษาสงเคราะห์ มีตัวชี้วัด ๓๐ ข้อ, และงานสาธารณสงเคราะห์ มีตัวชี้วัด ๓๐ ข้อ
Download |