การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ ดังนี้ ๑) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ภาคเหนือตอนล่าง ๒) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงพุทธสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ภาคเหนือตอนล่าง  ๓) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงพุทธสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ภาคเหนือตอนล่าง

การวิจัยนี้แบ่งออกเป็น ๓ ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ ๑ ศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ภาคเหนือตอนล่าง ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๒๐ รูป/คน ใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนที่ ๒ การสร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงพุทธสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ภาคเหนือตอนล่าง ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๑๑ รูป/คน โดยการจัดสนทนากลุ่ม เครื่องมือที่ใช้คือ แบบบันทึกการสนทนากลุ่มและใช้การวิเคราะห์เนื้อหา  ขั้นตอนที่ ๓ การประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงพุทธสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ภาคเหนือตอนล่าง ผู้ให้ข้อมูลจำนวน  ๓๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมินที่ประกอบด้วย ๔ ด้าน คือ โดยประเมินความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ และประโยชน์  สถิติที่ใช้ได้แก่ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

๑) ผลการศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ภาคเหนือตอนล่าง พบว่า ได้ทำการวิเคราะห์หลักสูตร จัดทำโครงสร้างหลักสูตร แล้วนำไปใช้ ผู้บริหารนิเทศติดตามประเมินหลักสูตร  ให้ครูจัดกระบวนการเรียนรู้ รวมทั้งการพัฒนาตนเองการใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน ทำการพัฒนา จัดหา จัดทำสื่อ สำรวจแหล่งเรียนรู้ และจัดทำทะเบียนแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งการใช้แหล่งเรียนรู้ในและนอกโรงเรียน จัดทำระเบียบและคู่มือการวัดประเมินผลของโรงเรียน วัดผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง ทำการพัฒนาเครื่องมือวัดผลประเมินผลอย่างต่อเนื่อง  จัดระบบการนิเทศและดำเนินการนิเทศอย่างหลากหลายและได้ดำเนินงานระบบประกันคุณภาพภายในตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ

๒) ผลการสร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงพุทธสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภาคเหนือตอนล่าง พบว่า รูปแบบการบริหารจัดการหลักสูตร มี ๑๘ วิธีการ  รูปแบบการจัดการเรียนรู้ มี ๑๘ วิธีการ  รูปแบบการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ มี ๑๕ วิธีการ  รูปแบบการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ มี ๑๔ วิธีการ  รูปแบบการวัดผลประเมินผล มี ๑๔ วิธีการ  รูปแบบการนิเทศการศึกษา มี ๑๖ วิธีการ และรูปแบบการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายใน มี ๑๐ วิธีการ

๓) ผลการประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงพุทธสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภาคเหนือตอนล่าง ทั้ง ๔ ด้าน  ๗ รูปแบบ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

Download