ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดและทฤษฎีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่ง
พระองค์ทรงเป็นพุทธศาสนิกชนที่ศึกษาหลักพุทธธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนแตกฉาน
และได้นำมาประยุกต์ใช้จัดทำโครงการพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กองทัพบกเป็น
หน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจในการพัฒนาประเทศ กองทัพบกจึงได้ตระหนักถึงการพัฒนา
ความเป็นอยู่ของราษฎร การพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรตามพื้นที่ต่าง ๆ เมื่อคุณภาพชีวิตพัฒนา
ประเทศก็พัฒนาในที่สุด กองทัพบกจึงได้ตั้งปณิธานว่าจะสนองเบื้องยุคลบาทตามแนวพระราชดำริ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะนำหลักการทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงไปพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎร
ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ผู้วิจัยได้ศึกษาวิเคราะห์หลักพุทธธรรมที่ปรากฎในพระราชดำรัสที่เกี่ยวข้องกับปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง ที่นำไปประยุกต์ใช้ตามโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ป่าดงนาทาม
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องและศึกษาถึง
บทบาทของกองทัพบกโดยรวมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรตามโครงการพัฒนาเพื่อความ
มั่นคงเฉพาะพื้นที่ป่าดงนาทาม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุบลราชธานีโดยการนำของ
พลตรี พิเชษฐ์ วิสัยจร ซึ่งมีบทบาทหลัก ๒ ด้าน คือ การส่งเสริมโครงการเกษตรธรรมชาติ และ
การส่งเสริมการรักษาสภาพแวดล้อมชุมชน ตลอดจนศึกษาภาคสนาม ณ หมู่บ้านชาด
ตำบล หนามแท่ง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งบริเวณพื้นที่ป่าดงนาทาม
รอบ ๆ หมู่บ้านชาดฯโดยมีวิธีดำเนินการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างงานวิจัยเอกสารซึ่งเป็น
การศึกษาวิเคราะห์เอกสารตลอดจนศึกษาวิเคราะห์แบบสัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับงานวิจัย
เชิงปริมาณซึ่งเป็นงานวิจัยภาคสนามโดยวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์การวิจัย
จากผลการวิจัยเอกสารเชิงคุณภาพพบว่า มีหลักพุทธธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หลายหลักธรรม เป็นหลักการสำ คัญที่ปรากฏในพระราชดำ รัสที่เกี่ยวข้องกับปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ป่าดงนาทามอันเนื่องมาจาก
พระราชดำริ จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการวางรากฐานแนวคิดจากพลตรี พิเชษฐ์ วิสัยจรได้ใช้หลัก
พุทธธรรมเหล่านี้เป็นหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎร เช่น หลักมัชฌิมาปฏิปทา หลัก
พึ่งตนเอง เป็นต้นโดยเน้นให้ประชาชนอยู่ได้โดยไม่โลภ ไม่เบียดเบียน ไม่แก่งแย่งชิงดี ประกอบ
สัมมาอาชีพ กินอยู่อย่างพอเพียง เอื้อเฟื้อแบ่งบัน บริโภควัตถุอย่างคำนึงถึงอัตถประโยชน์อย่าง
สูงสุด ไม่ฟุ้งเฟ้อ สำหรับผลการวิจัยเชิงปริมาณภาคสนาม ณ. หมู่บ้านชาด ฯจากการวิเคราะห์ข้อมูล
ด้วยการใช้สถิติพื้นฐานได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่า
๑. ด้านการรับรู้การปฏิบัติงานตามโครงการ ฯ ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการฯ รับรู้การ
ปฏิบัติงานตามโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ป่าดงนาทาม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดอุบลราชธานี ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง{ โครงการเกษตรธรรมชาติอยู่ในระดับสูง
( X = ๓.๕๘)และโครงการรักษาสภาพแวดล้อมชุมชน( X = ๓.๖๙) }
๒. ด้านการรับรู้การใช้หลักพุทธธรรมฯ ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการฯ รับรู้การใช้หลักพุทธ
ธรรมตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ป่าดงนาทาม อัน
เนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุบลราชธานี ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง( X = ๓.๗๘)
๓. ด้านการรับรู้ต่อผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎร ราษฎรที่เข้าร่วม
โครงการฯ รับรู้ผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรในภาพรวมอยู่ในระดับสูง
( X = ๓.๖๓)
พร้อมทั้งได้ให้ข้อเสนอแนะบางประการไว้เพื่อเป็นองค์ความรู้ใหม่ให้หน่วยงานภาครัฐ
และเอกชนช่วยกันนำไปประยุกต์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรให้ดีขึ้น จนราษฎรมีความพร้อม
มีความพอดีตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สามารถเป็นกำลัง
สำคัญในการพัฒนานำพาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองในอนาคตต่อไป

Download :  255126.pdf