หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระสุเมธี สิริปญฺโญ (โสจันทร์)
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๕ ครั้ง
การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนพิพิธสุตคุณานุสรณ์ (สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา)
ชื่อผู้วิจัย : พระสุเมธี สิริปญฺโญ (โสจันทร์) ข้อมูลวันที่ : ๒๕/๑๐/๒๐๑๙
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  นิเวศน์ วงศ์สุวรรณ
  สมชัย ศรีนอก
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๖๒
 
บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบเชิงทดลอง (Experimental Research) มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพิพิธสุตคุณานุสรณ์ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี  ๒) เพื่อศึกษาศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพิพิธสุตคุณานุสรณ์ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท ๔ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๒๕ รูป โรงเรียนพิพิธสุตคุณานุสรณ์ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท ๔ วิชา ประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ สังคมและเศรษฐกิจสมัยอยุธยา จำนวน ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน ๒๐ ข้อ

ผลการวิจัยพบว่า

๑) การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพิพิธสุตคุณานุสรณ์ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี  มีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีแรงจูงใจ การสร้างแรงจูงใจทำได้โดยการมองสภาพของนักเรียนหลายคนได้มีโอกาสที่นักเรียนได้รับการศึกษา เป็นสาเหตุในการสร้างแรงจูงใจในการศึกษาคือการที่นักเรียนจะมีความสุขในการยกคุณภาพชีวิตในฐานะเป็นนักเรียนที่มีการศึกษา นักเรียนสามารถไปที่เว็บการศึกษาเช่นนี้ และเข้ากลุ่มกับผู้ที่มีความสนใจ โดยไม่จำเป็นต้องบังคับตนเอง

๒) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพิพิธสุตคุณานุสรณ์ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ สังคมและเศรษฐกิจสมัยอยุธยา   จำนวน ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ โดยการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย () = ๑๕.๖๕ และหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย () = ๒๒.๔๑ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ก่อนเรียน =.๖๘๔ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) หลังเรียน =.๕๕๔ และผลการทดสอบ T-Test ก่อนเรียนและหลังเรียนมีค่าทางสถิติที่ -๓๒.๗๕๐ แสดงว่าคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕

ผลการวิจัยโดยภาพรวม แสดงให้เห็นว่า การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ เป็น จัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน ในการเตรียมเข้าสู่โลกอนาคต เช่น การเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งการใช้สื่อการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง

Download

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕