วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาหลักปฏิบัติวิปัสสนาตามหลักสติปัฏฐาน ๔ ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ๒) เพื่อศึกษาหลักปฏิบัติปรมัตถภาวนาตามแนวทางของวัดมเหยงคณ์ ๓) เพื่อวิเคราะห์รูปแบบปรมัตถภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน ๔ โดยใช้วิธีการศึกษาเชิงคุณภาพผสมผสานระหว่างเชิงเอกสารและภาคสนามด้วย ผลการศึกษาวิจัย พบว่า
สติปัฏฐานสูตร เป็นพระสูตรที่สำคัญต่อการปฏิบัติกรรมฐานมาก พระสูตรนี้มีปรากฏในคัมภีร์ทีฆนิกาย มหาวรรค เป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าแสดงแก่พุทธบริษัทชาวกุรุ เพราะมีความสนใจในการเรียนธรรมและปฏิบัติธรรมอย่างมาก พระองค์แสดงทางสายเอกของสติปัฏฐานไว้ ๔ ประการ คือ เป็นทางเดียว เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อล่วงโสกะและปริเทวะ เพื่อดับทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรมและเพื่อทำให้นิพพานด้วยการพิจารณาในฐานทั้ง ๔ ได้แก่ กาย เวทนา จิต และธรรม โดยมีวิปัสสนาภูมิเป็นอารมณ์
หลักการปฏิบัติกรรมฐานตามแนวทางของวัดมเหยงคณ์นั้น ใช้แนวทางในการพิจารณา ปรมัตถธรรมหรือปรมัตถสัจจะ ได้แก่ จิต เจตสิก รูปและนิพพาน ซึ่งเป็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้นจริง ๆ อย่างเที่ยงแท้แน่นอน ไม่มีใครแต่งขึ้น ไม่มีใครสร้างขึ้น เกิดมีขึ้นเองโดยเหตุโดยปัจจัยไม่มีใครเป็นเจ้าของ มีความเห็นถูกต้องมีความเข้าใจถูก เป็นการรู้ความจริงของปรมัตถธรรมตามสภาพลักษณะของปรมัตถธรรมนั้น ๆ ด้วยการพิจารณากำหนดรู้รูป-นาม ขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ในการเจริญวิปัสสนาภาวนา ตัดการสมมติบัญญัติทิ้งไป เพื่อให้ความความเป็นจริง แล้วน้อมเข้าไปพิจารณาอาการเกิดดับตามหลักไตรลักษณ์ ไม่ว่าเป็นรูปและนามต่างก็การมีอาการเช่นนี้คือ การเกิดและดับด้วยเหตุและปัจจัยในตัวของมันเอง เป็นการพิจารณาให้เกิดปัญญาจากการกำหนดรู้
เมื่อศึกษาวิเคราะห์หลักการปฏิบัติปรมัตถภาวนาตามแนวทางของวัดมเหยงคณ์แล้ว พบว่า มีหลักการสอนตามแนวทางในหลักสติปัฏฐาน ๔ ที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ในมหาสติปัฏฐานสูตร ด้วยการพิจารณากาย เวทนา จิต และสภาวธรรม โดยการพิจารณารูป-นาม ขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์เช่นเดียวกัน
Download |