การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ (๑) เพื่อศึกษาการส่งเสริมการปฏิบัติงานของ
พระวินยาธิการของคณะสงฆ์ จังหวัดชัยภูมิ (๒) เพื่อเปรียบเทียบการส่งเสริมการปฏิบัติงานของ
พระวินยาธิการของคณะสงฆ์ จังหวัดชัยภูมิ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการส่งเสริมการปฏิบัติงานของพระวินยาธิการของคณะสงฆ์ จังหวัดชัยภูมิ
การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณใช้เครื่องมือการวิจัย คือ แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๗๕ เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพระสงฆ์ในเขต
อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จำนวน ๒๘๔ รูป วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าเอฟ ด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด และการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๘ รูป/คน และวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา สรุปเป็นความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
๑. พระสงฆ์มีความคิดเห็นต่อการส่งเสริมการปฏิบัติงานของพระวินยาธิการของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =๓.๔๑) เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านตรวจตราชี้แจงพระภิกษุสงฆ์ในจังหวัด หรือที่เข้ามาในจังหวัด อยู่ในระดับมาก ( = ๓.๔๕) รองลงมา ด้านพิจารณาดำเนินการตามอำนาจท้องที่ หรือด้านช่วยเจ้าอาวาส หรือ เจ้าคณะปกครองในเขตนั้น ฯ ( = ๓.๔๐) รองลงมา ด้านนำพาพระภิกษุผู้ประพฤติฝ่าฝืนในข้อ ๑ มอบให้เจ้าอาวาสหรือผู้ปกครองสงฆ์ในเขตนั้น ๆ แล้วแต่กรณี ( = ๓.๓๙) และต่ำสุด ด้านปฎิบัติให้ชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎหมายกฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช คำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน ( = ๓.๓๙) ตามลำดับ
๒. ผลการเปรียบเทียบ พบว่า พระสงฆ์ที่มีการศึกษาสายสามัญต่างกัน มีความคิดเห็น
ต่อการส่งเสริมการปฏิบัติงานของพระวินยาธิการของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย ส่วนพระสงฆ์ที่มีพรรษา ตำแหน่งทางคณะสงฆ์ การศึกษาทางธรรม และอายุต่างกัน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย
๓. ปัญหาและอุปสรรคต่อการส่งเสริมการปฏิบัติงานของพระวินยาธิการของคณะสงฆ์ จังหวัดชัยภูมิ พบว่า พระวินยาธิการไมขยันออกตรวจตามหนาที่ของตนที่ไดรับมอบหมาย เมื่อพระสงฆ์ทำผิดและสึกแล้วกลับมาบวชใหม่อีกใช้ใบสุทธิเล่มเดิม พระวินยาธิการ บางรูปไมเขาใจบทบาทตัวเองและไมมีความพรอมในการปฏิบัติหน้าที่ การประสานงานยังไมคอยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
โดยมีข้อเสนอแนะดังนี้ การส่งเสริมการปฏิบัติงานของพระวินยาธิการของคณะสงฆ์ จังหวัดชัยภูมิ พระวินยาธิการควรขยันหมั่นออกตรวจตราในในพื้นที่ของตนรับผิดชอบใหมากขึ้น ควรยึดใบสุทธิและทำลายเสียและแจ้งให้ทุกพื้นที่รู้ว่าได้สึกไปแล้ว ควรใหผูที่จะเปนพระวินยาธิการให้เป็นด้วยความสมัคใจ และพรอมที่จะทํางานดวยความเต็มใจ ควรมีการรวมมือในพระวินยาธิการดวยกันให้มาก และรวมมือรวมใจปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางปองกัน และสอดสองดูแลใหเขมงวดขึ้น
Download |