การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์คือ ๑. เพื่อศึกษาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ๒. เพื่อเปรียบเทียบการพัฒนาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล ๓. เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะในการพัฒนาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี
ระเบียบวิธีวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ เป็นการสำรวจด้วยแบบสอบถามซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๖๑ กับกลุ่มตัวอย่าง คือ พระสงฆ์ในสำนักปฏิบัติธรรมในอำเภอบ้านหมอจังหวัดสระบุรี จำนวน ๑๓๘ รูป ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการทดสอบค่าเอฟ ด้วยวิธีวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และงานวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน ๘ รูป/คน โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา สรุปเป็นความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
๑. พระสงฆ์ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี มีความคิดเห็นต่อระดับการพัฒนาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย ๓.๙๖ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านแล้ว เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านรูปแบบของการสื่อสาร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๐๓ อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาด้านจริยวัตรผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๕ ด้านรูปแบบการเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๔ และน้อยที่สุดด้านเทคนิคการเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๒ ตามลำดับ
๒. ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อการพัฒนาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล พบว่า พระสงฆ์ที่มีอายุ อายุพรรษา วุฒิการศึกษาสายสามัญ ที่ต่างกัน มีความคิดเห็น แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย ส่วนพระสงฆ์ที่มีวุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม ต่างกัน มีความคิดเห็น ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย
๓. ปัญหา อุปสรรค ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรีมีภาวะการเป็นผู้นำด้านศาสนพิธีน้อยไม่มีความรู้ความเข้าใจที่จะถ่ายทอดหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาแก่ประชาชนได้ บางรูปยังไม่มีความพร้อมในการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา การจัดกิจกรรมเพื่อบรรยายธรรมมีน้อยเกินไป การจัดปฏิบัติธรรมมีการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึงมีการแสดงบทบาทสมมติในการเผยแผ่ธรรมน้อยมาก ไม่มีการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายเป็นกันเองในการเผยแผ่ธรรมไม่มีการใช้ท่าทางประกอบการบรรยายเพื่อทำให้ผู้ฟังความเข้าใจธรรมมากขึ้น ไม่มีการใช้อุปกรณ์หรือสื่อในการเรียนรู้ประกอบในการเผยแผ่ในการบรรยายธรรม ไม่มีการใช้ภาษาที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจไม่มีการจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ คู่มือ แผ่นพับแผ่นซีดี การใช้คำพูดที่ไม่สุภาพในการทักทายกัน
ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี คือ รูปแบบของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ โดยเน้นการปฏิบัติเชิงรุกให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านรูปแบบของการสื่อสาร ด้านจริยวัตรผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้านรูปแบบการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้านเทคนิคการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อพระสงฆ์สามารถนำไปใช้ได้จริง ควรมีการฝึกอบรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์แก่พระสงฆ์ ก่อนออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาจริง ควรศึกษาและวิจัยเทคนิคการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้เหมาะสมกับการปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และให้เกิดแรงจูงใจในการประพฤติปฏิบัติ
Download |