การศึกษาวิจัยนี้ เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี มีวัตถุประสงค์ ๑). เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำในการบริหารวัดของพระสงฆ์ ในอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ๒). เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ที่มีต่อการพัฒนาภาวะผู้นำของพระสงฆ์ ในอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ๓). เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของพระสงฆ์ในอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี กลุ่มตัวอย่างประกอบพระสงฆ์ ในอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ให้มีความเป็นภาวะผู้นำที่ดีและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ระเบียบวิธีวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ เป็นการสำรวจด้วยแบบสอบถามซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๒๖ กับกลุ่มตัวอย่าง คือ พระสงฆ์ในอำเภอโนนสะอาดจำนวน ๑๔๖ รูป ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าทีเทส และการทดสอบค่าเอฟ ด้วยวิธีวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และงานวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน ๘ รูป/คน โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา สรุปเป็นความเรียง

              ผลการวิจัยพบว่า

๑). ระดับภาวะผู้นำในการบริหารวัดของพระสงฆ์ ในอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี มีความพึงพอใจต่อการพัฒนาภาวะผู้นำโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านที่ ๑. การครองตน  (x =๔.๓๕ S.D.= ๐.๑๘๗) รองลงมาคือ ด้านที่ ๒.   การครองคน   (x = ๔.๒๘ S.D.= ๐.๒๒๑)  และน้อยที่สุดคือ ด้านที่ ๓. การครองงาน ( x = ๔.๒๓ S.D.= ๐.๒๓๘)

๒). เปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ที่มีต่อการพัฒนาภาวะผู้นำของพระสงฆ์ ในอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล พบว่า พระสงฆ์ที่มี สถานภาพ อายุ และวุฒิการศึกษาปริยัติธรรม แผนกบาลี ที่ต่างกัน มีความคิดเห็น ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย ส่วนพระสงฆ์ที่มีอายุ พรรษา วุฒิการศึกษาปริยัติธรรม แผนกสามัญ และวุฒิการศึกษาปริยัติธรรม แผนกธรรม ต่างกัน มีความคิดเห็น แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย

๓). ปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของพระสงฆ์ในอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ปัญหาด้านการครองตนส่วนมากจะมีด้านทุนทรัพย์ไม่พอเพียง ปัญหาด้านการครองคนส่วนมากจะพบก็ด้วยเรื่องการปรับตัวการเข้าถึงการเรียนรู้อุปนิสัยความรู้ความสามารถหรือด้านต่างๆเวลาไม่เพียงพอเลยไม่สามารถเข้าถึงและรู้ได้ทุกเรื่อง (ไม่กว้างหรือมากพอ) ปัญหาด้านการครองงานส่วนมากจะเกิดจากความผิดพลาดด้านการหาบุคลากรที่เป็นตัวแทนรับผิดชอบแทนในกรณีที่ตนติดภารกิจ เพราะถ้าได้คนที่ไว้วางใจไม่ได้อาจเกิดข้อผิดพลาดเสียหายสูงจึงควรจะมีโครงการให้สนับสนุนจัดเงินสมทบช่วยเหลือจัดเป็นกองทุนส่วนกลางให้สามารถยื่นเสนอขอความช่วยเหลือสนับสนุนที่สะดวกรวดเร็ว จะได้ดำเนินการไดๆไม่สะดุดบกพร่อง ควรมีเวลาอยู่ศึกษาร่วมกันสักระยะหนึ่งก่อนๆตัดสินใจ งานจะได้ราบรื่นดีกว่าที่เป็นอยู่ ควรมีการฝึกอบรมหรือคัดเลือกผู้ที่ทำหน้าที่แทนโดยคัดเลือกจากผู้ที่ทำงานด้วยกันนั้นเอง (หัวหน้างานในแต่ละส่วนงาน)

แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำ คือ ๑) การครองตน รู้จักค้นคว้าแสวงหาความรู้ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายไม่ฟุ่งเฟือย มีสัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตนช่วยเหลือสังคมอยู่เสมอปฏิบัติตนให้เหมาะสมดับตำแหน่งหน้าที่ของตนเอง ๒)การครองคน สร้างความสามัคคีกับหมู่คณะและชุมชนเป็นกัลยาณมิตรกับทุกคนปฏิบัติงานทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของสังคมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือสังคมด้วยความจริงใจ ๓)การครองงาน ปฏิบัติงานอย่างมีระเบียบแบบแผนขั้นตอนที่ถูกต้องมีอุดมการณ์รักและมีความสุขกับการทำงานมีความกระตือรือร้นอุสาหะอดทนพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง

Download