การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของชุมชนต่อการจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี
โดยในการศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Method Research) โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ซึ่งใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) จากแบบสอบถาม (Questionnaire) โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชากรในการศึกษา โดยเลือกชมรมผู้สูงอายุและประชากรทั่วไปที่มาบริจาคสิ่งของที่มาวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัด จังหวัดลพบุรี จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของประชากร คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ สถิติที่ใช้วิเคราะห์กระบวนการการจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี การวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก กับผู้ให้ข้อมูลหลักเพื่อสนับสนุนข้อมูลเชิงปริมาณ
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า
๑. การจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ( = ๔.๕๐) แสดงถึงผลการแก้ไขปัญหาของผู้บริหารวัดพระบาทน้ำพุ จากอดีตที่ชาวบ้านรังเกียจผู้ป่วยโรคเอดส์ และขับไล่เจ้าอาวาสให้ย้ายวัด แจ้งความถึงผู้ว่าให้มาดำเนินการ แต่ปัจจุบันนี้กลับพลิกสถานการณ์กลายเป็นความศรัทธาสูงทั้งในชุมชนจังหวัดลพบุรี และประชาชนทั่วไปที่มาบริจาคเงินและสิ่งของ
๒. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลากรต่อการจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี จำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ อาชีพ มีความคิดเห็นต่อการจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ไม่แตกต่างกัน
๓. ปัญหา อุปสรรค เกี่ยวกับการจัดการงานสาธารณสงเคราะห์ของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี คือ ได้สร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมแต่กลายเป็นที่เก็บของ วัดขาดการสร้างบุคลากรพระภิกษุสงฆ์ในการเป็นผู้นำในการปฏิบัติธรรม และประชาสัมพันธ์ชักชวนประชาชนทั่วไป และจากข้อมูลที่รับมาเรื่องเพศสัมพันธ์กับโรคเอดส์ที่เกิดขึ้นกับเด็กเยาวชนและประชาชนทั่วไปว่า ภัยของโรคเอดส์เพิ่มขึ้นทุกปี แสดงว่าการประชาสัมพันธ์ของภาครัฐไม่ให้ความสนใจในเรื่องนี้มากเท่าที่ควร และด้านการดำเนินกิจการ องค์การบริหารยังขาดการนำแผนด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ เชิงกลยุทธ์ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง และโครงการการสร้างศูนย์บำบัดผู้เสพยาเสพติดเป็นโครงการใหม่ ขาดบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญที่ต้องหาข้อมูลและปรึกษาหน่วยงานราชการ และถึงแม้วัดจะทำประโยชน์ให้กับสังคมมากมายจนมีชื่อเสียงที่ดี แต่ก็มีผลกระทบการรับดูแลผู้ป่วยเอดส์เป็นจำนวนมากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนกลัวตาย ไม่อยากติดต่อโรคใด ๆ จึงมีผลกระทบต่อการสร้างบุคลากรในวัดพระบาทน้ำพุ จะหาบุคลากรที่มีใจเสียสละในงานสาธารณสงเคราะห์นั้นหายากมากกว่าวัดอื่น ๆ ต้องใช้แผน ๑ แผน ๒ และแผน ๓ ในการสร้างบุคลากร
Download |