การวิจัยเรื่อง “ศึกษาผลสัมฤทธิ์วิธีการสอนครูสมาธิ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของสถาบันพลังจิตตานุภาพวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม” มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาหลักคำสอนเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิในพระพุทธศาสนาเถรวาท (๒) เพื่อศึกษาวิธีการสอนครูสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม (๓) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์วิธีการสอนครูสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของนักศึกษาสถาบันพลังจิตตานุภาพวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
ดำเนินการวิจัยโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (IN-depth Interview) ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (key Informants) ซึ่งประกอบด้วย อาจาริยสาสมาธิ และนักศึกษาครูสมาธิ ณ สถาบันพลังจิตตานุภาพวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงประจักษ์ ตามระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)
ผลการวิจัย การศึกษาหลักคำสอนเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิในพระพุทธศาสนาเถรวาท พบว่า การปฏิบัติสมาธิเพื่อค้นพบหนทางหรือสาเหตุแห่งความเป็นจริง การรู้แจ้ง การสร้างวินัยในตนเอง การพัฒนาจิตใจด้วยวิธีการทำสมาธิ นอกจากจะทำให้เรามีความสุข มีความสงบทางจิตใจอย่างลึกซึ้งแล้ว สมาธิยังเป็นเกราะป้องกันความรู้สึกในทางลบหรือความชั่วร้ายที่จะเกิดขึ้นในจิตใจของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
การศึกษาวิธีการสอนครูสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พบว่า หลักสูตรครูสมาธิมีการสอนเป็นอย่างเป็นระบบ เป็นการเรียนตามแนวคำสอนของพระอาจารย์หลวงพ่อ วิริยังค์ สิริธฺโร โดยมีตำราเรียน ๓ เล่ม ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เล่มที่ ๑ ปูพื้นฐานสมาธิเบื้องต้น เล่มที่ ๒ เนื้อหาเกี่ยวกับ สมาธิ ฌาน ญาณ เล่มที่ ๓ เป็นการเปรียบเทียบสมถะกับวิปัสสนา นอกจากเรียนภาคทฤษฎีแล้ว ยังกำหนดภาคปฏิบัติการฝึกภาคสนามเดินธุดงค์ ณ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ จึงจะจบหลักสูตร ใช้เวลาในการเรียน ๖ เดือน เรียนในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๓๐ น.
การศึกษาผลสัมฤทธิ์วิธีการสอนครูสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของนักศึกษาสถาบันพลังจิตตานุภาพวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พบว่า มีประสิทธิภาพสูงอย่างดียิ่ง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ คือ ด้านจิตใจ ด้านร่างกาย ด้านครอบครัว ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม เช่น ด้านจิตใจก่อนมาเรียนสมาธิเป็นคนใจร้อนวู่วาม วิตกกังวล เคร่งเครียด หงุดหงิด ชอบบ่น หลังจากเรียนสมาธิแล้ว ทำให้จิตใจผ่องใส สงบ เยือกเย็น ปลอดโปร่ง เบา สบาย มีความจำ และสติปัญญาดีขึ้น คิดอะไรได้รวดเร็วขึ้นและถูกต้อง ทำให้มีความอดทนต่อเหตุการณ์ที่ลดความโกรธ ลงได้ เป็นต้น จุดประสงค์ของการทำสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพ คือ “พลังจิต” อันเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของการทำสมาธิ คนทุกคนต้องมีพลังจิตจึงจะทำงานสำเร็จ ถ้าขาดพลังจิตก็จะไม่พบความสำเร็จ และถ้าขาดพลังจิตมากจะเป็นโรคประสาท แต่ถ้าพลังจิตยิ่งมีสูงมากนั่นหมายความว่าจะทำงานมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ซึ่งประโยชน์ของสมาธิตามแนวคำสอนของพระอาจารย์หลวงพ่อ ได้กำหนดไว้มี ๑๒ ข้อ คือ ๑. ทำให้หลับสบายคลายกังวล ๒. กำจัดโรคภัยไข้เจ็บ ๓. ทำให้สมอง ปัญญาดี ๔. ทำให้รอบคอบก่อนทำงาน ๕. ทำให้ระงับความร้ายกาจ ๖. บรรเทาความเครียด ๗. มีความสุขพิเศษ ๘. ทำให้จิตใจอ่อนโยน ๙. กลับใจได้ ๑๐. เวลาจะสิ้นลมพบ ทางดี ๑๑. เจริญวาสนาบารมี ๑๒. เป็นกุศล ดังคำกล่าวของพระอาจารย์หลวงพ่อที่ว่า ประโยชน์ที่เกิดจากสมาธิคือ ความอยู่เย็นเป็นสุข ความชุ่มชื้น ความเพลิดเพลิน ความมีเมตตาธรรม ความซาบซึ้งตึงใจ สิ่งเหล่านี้เราจะหาจากที่ใดที่หนึ่งไม่ได้ นอกจากสมาธิ เพราะว่าอาการเป็นที่ชื่นใจเป็นสุขนี้ จะเกิดจากสมาธิเท่านั้น ดังนั้น ประโยชน์ของสมาธิจึงมหาศาลจริง ๆ สามารถให้ประโยชน์แก่โลกสังคมประชากรโลกอย่างแท้จริงและแน่นอน
Download
|