วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ๒) เพื่อศึกษาพฤติกรรมที่พึงประสงค์ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของพระนิสิต วิทยาลัยสงฆ์หนองคาย และ ๓) เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมที่พึงประสงค์เชิงพุทธในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของพระนิสิต วิทยาลัยสงฆ์หนองคาย เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพและลงภาคสนามจากพระไตรปิฎก เป็นหลักและข้อมูลขั้นทุติยภูมิ ในหนังสือวิชาการ เอกสาร งานวิจัย มีการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์แล้วนาผลมาประกอบสารนิพนธ์ นำเสนอผลการวิจัยเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการแสวงหาและการเข้าถึงสารสนเทศ ซึ่งพฤติกรรมนี้อาจจะเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น ผู้ใช้อาจจะใช้ระบบสารสนเทศที่เป็นทางการโดยใช้ระบบการให้บริการแบบออนไลน์หรือศูนย์สารสนเทศ หรืออาจใช้ระบบสารสนเทศที่ไม่เป็นทางการ คือระบบที่ไม่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศเป็นหลักแต่อาจจะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสารสนเทศที่ต้องการได้ เทคโนโลยีสารสนเทศมีประโยชน์ต่อมนุษย์ในหลายด้าน เช่น ด้านการศึกษาช่วยให้การศึกษามีความสะดวกขึ้น
พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของพระนิสิตในด้านต่างๆ แสดงให้เห็นว่า พระนิสิตของวิทยาลัยสงฆ์หนองคายใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์ไปได้หลายประการเช่น การใช้เพื่อสืบค้นข้อมูลด้านการศึกษา การใช้เพื่อติดต่อสื่อสาร การใช้เพื่อเป็นสื่อในการเจริญจิตภาวนา การใช้ผลิตสื่อประกอบการสอน รวมทั้งการใช้เพื่อพิมพ์งานส่วนตัวหรืองานคณะสงฆ์ เทคโนโลยีสารสนเทศก็คือวิชาการอย่างหนึ่งที่พระควรศึกษาและคณะสงฆ์ควรส่งเสริมให้พระได้มีโอกาสศึกษาให้มากขึ้น โดยใช้หลักปฏิสัมภิทาคือรู้จักความหมาย รู้จักหลักการ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างรู้เท่าทันและนำไปอธิบาย หลักธรรมของพระพุทธศาสนาให้กับคนร่วมสมัยเข้าใจได้ ประโยชน์ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีมีความเกี่ยวข้องกับพระนิสิตนั้น ได้แก่ ประโยชน์ด้านการติดต่อสื่อสาร ทำให้สามารถได้รับข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ ประโยชน์ในด้านการศึกษาทำให้หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโทษของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของพระนิสิตที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดโทษที่มีผลต่อสุขภาพ และโทษที่มีผลต่อสังคมสงฆ์
การวิเคราะห์พฤติกรรมที่พึงประสงค์เชิงพุทธในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของพระนิสิต วิทยาลัยสงฆ์หนองคายจากการศึกษาทำให้ทราบทั้งข้อดีและข้อเสียของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับทั้ง การศึกษา และพระพุทธศาสนา ของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการศึกษาของนิสิตวิทยาลัยสงฆ์หนองคายทำให้ทราบทั้งข้อดีและข้อเสียของการนำมาใช้ในประเด็นของการศึกษาคือนิสิตสามารถสืบค้นข้อมูลการหาข้อมูลที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับรายวิชาที่อาจารย์ได้รับมอบหมายนิสิตก็จะสามารถสืบค้นข้อมูลได้ง่ายและสามารถสร้างฐานข้อมูลขึ้นเพื่อเป็นการแชร์กันในห้องเรียนในการที่จะทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้นอกตำราเรียนที่จะเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่จะทำให้การศึกษามีการต่อยอดและทำงานที่ได้รับมอบหมายประสบความสำเร็จส่วนในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประยุกต์ในการเผยแผ่พุทธศาสนาจะเป็นการสร้างฐานข้อมูลที่มีความสำคัญยกตัวอย่างเช่นการเผยแพร่หลักธรรมที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา วิธีการปฏิบัติธรรมการเจริญอานาปานสติสมาธิ การเจริญมหาสติปัฏฐาน 4 วิธีการเดินจงกรม วิธีการนั่งสมาธิ ซึ่งการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในยุคปัจจุบันทำให้ได้ฐานข้อมูลที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกที่ทุกเวลาของเพียงแค่ว่ามีอินเตอร์เน็ตในการเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อที่จะทำให้กลุ่มผู้ที่มีความสนใจได้ใช้ประโยชน์จากการสร้างฐานข้อมูลของนิสิตวิทยาลัยสงฆ์หนองคายซึ่งจะเป็นการสร้างผลงานที่เป็นการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมทางสังคมในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศคือการที่นิสิตไม่มีความรู้ในการโพสต์ข้อมูลในสังคมออนไลน์ทำให้เกิดความเสียชื่อเสียงทั้งในตัวนิสิตและสถาบันการศึกษาเป็นต้นในบริเวณต่อมาคือเป็นการส่งผลต่อตนเองคือการใช้โทรศัพท์ในระยะเวลาที่ยาวนานทำให้เกิดการพักผ่อนไม่เพียงพอเมื่อเข้าสู่ห้องเรียนก็จะไม่มีสติไม่มีสมาธิในการเรียนหนังสือทำให้ไม่สามารถสอบวัดผลคะแนนได้คะแนนที่เป็นที่น่าพอใจและหลักการต่อมามีผลต่อสายตาในการใช้คอมพิวเตอร์หรือใช้โทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน.
Download
|