การศึกษาวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อศึกษาคติ ความเชื่อและพิธีกรรมงานศพในพระพุทธศาสนา ๒) เพื่อศึกษาพิธีกรรมงานศพในวัฒนธรรมล้านนา ๓) เพื่อศึกษาการสืบสานคติ ความเชื่อ พิธีกรรมงานศพของสัปเหร่อที่มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบ่อแฮ้ว อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยวิจัยเชิงเอกสารและเชิงคุณภาพ จากการสัมภาษณ์เชิงลึกพระสังฆาธิการ มัคคนายกในท้องถิ่น ผู้นำในท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ จำนวน ๓๕ รูป/คน เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการสืบสานคติ ความเชื่อ พิธีกรรมงานศพกับบทบาทสัปเหร่อ
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า
ความเชื่อและพิธีกรรมงานศพได้รับอิทธิพลจากประเทศอินเดีย เพื่อส่งดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรคาลัย จากการเผาและปัดเศษเถ้ากระดูกผู้ตายลงแม่น้ำคงคา จนเกิดธรรมเนียมนิยมการทำฌาปนกิจศพและลอยเถ้ากระดูก(ลอยอังคาร) พิธีกรรมงานศพเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีแก่ผู้จากไปที่เรียกว่า “ทักษิณาทาน” โดยสามารถแบ่งพิธีกรรมออกเป็น ๔ อย่าง คือ ๑) พิธีกรรมในวันตาย ๒) พิธีกรรมในวันตั้งศพบำเพ็ญกุศล ๓) พิธีกรรมในวันฌาปนกิจศพ ๔) พิธีกรรมหลังวันฌาปนกิจศพ และถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน
วัฒนธรรมล้านนาได้แบ่งลักษณะพิธีกรรมงานศพตามชั้นชนไว้ ๓ ลักษณะ คือ ๑) การจัดพิธีศพเจ้านายชั้นสูง ๒) การจัดพิธีศพพระสงฆ์ ๓) การจัดพิธีศพสามัญชน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์ไปสู่สุคติตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ซึ่งการจัดพิธีศพเจ้านายและพระสงฆ์จะตั้งสรีระร่างผู้ตายลงบนปราสาทศพที่สูงใหญ่งดงามแตกต่างสามัญชน ปัจจุบันการจัดพิธีกรรมงานศพมีลักษณะไม่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเจ้าภาพต้องการจัดพิธีกรรมรูปแบบใด แต่พิธีกรรมต้องไม่ขัดกับหลักจารีตประเพณีดั้งเดิม จากการศึกษาพบว่าแนวทางและรูปแบบการสืบสานคติ ความเชื่อและพิธีกรรมงานศพของสัปเหร่อที่มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของชุมชน ประกอบด้วย ๑) ความเชื่อ การสงเคราะห์ผู้ตาย ๒) ความไว้วางใจ การยอมรับและไว้ใจของชุมชน ๓) รายได้ เป็นแรงจูงใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ ๔) การสืบต่อ เป็นการถ่ายทอดความรู้สู่เชื้อสายและผู้ที่มีความสนใจ
ดังนั้น การสืบสานคติ ความเชื่อและพิธีกรรมงานศพในวัฒนธรรมล้านนา จึงจำเป็นที่จะต้องตระหนักและสร้างคุณค่าการเป็นสัปเหร่อ ที่ประกอบด้วยความรู้ทางพิธีกรรม การบริหารจัดการขั้นตอนตามขนบธรรมเนียมประเพณี เพื่อสร้างความเป็นอัตลักษณ์และจรรโลงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามของชุมชนสืบต่อไป
Download
|