หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาญาณพล ญาณปญฺโญ (รัตนบุรี)
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๔ ครั้ง
รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำด้านเผยแผ่สำหรับพระสังฆาธิการ ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ฝั่งอันดามัน (สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา)
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาญาณพล ญาณปญฺโญ (รัตนบุรี) ข้อมูลวันที่ : ๐๘/๐๕/๒๐๑๙
ปริญญา : พุทธศาสตรดุษฎีบัญฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  อินถา ศิริวรรณ
  พระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๑๘ มกราคม ๒๕๖๒
 
บทคัดย่อ

ดุษฎีนิพนธ์เรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเสนอรูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำด้านการเผยแผ่สำหรับพระสังฆาธิการในเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๗ ฝั่งอันดามัน ใช้กระบวนการวิจัยแบบผสมผสานวิธี โดยเริ่มจากการใช้แบบสอบถามศึกษาสภาพภาวะผู้นำด้านการเผยแผ่ของพระสังฆาธิการ
ในเขตฝั่งอันดามัน ๕ จังหวัด จำนวน ๒๓๔ รูป เพื่อให้ได้ข้อมูลเบื้องต้น ในการศึกษาค้นคว้าหาแนวคิด ทฤษฎีในการพัฒนาภาวะผู้นำด้านการเผยแผ่และใช้สร้างแบบสัมภาษณ์ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นพระสังฆาธิการ ๑๕ รูป เพื่อทำการสร้างรูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำด้านการเผยแผ่สำหรับพระสังฆาธิการเขตฝั่งอันดามัน และใช้การสัมมนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ๑๒ รูป/คน สำหรับพิจารณาความเหมาะสมและให้การรับรองรูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำด้านการเผยแผ่ดังกล่าว

ผลการวิจัย พบว่า

๑. สภาพภาวะผู้นำด้านการเผยแผ่ ทั้ง ๓ ด้าน คือ ความรู้ ทักษะ และบุคลิกภาพ
ในการปฏิบัติงานของพระสังฆาธิการในเขตฝั่งอันดามัน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

๒. การพัฒนาภาวะผู้นำด้านการเผยแผ่ของพระสังฆาธิการฝั่งอันดามัน ทั้งด้านความรู้ ทักษะและบุคลิกภาพให้เพิ่มพูนสูงขึ้นด้วยการดำเนินการ ๕ ขั้นตอน คือ ๑) กำหนดหลักการในการพัฒนา ๒) กำหนดวัตถุประสงค์การพัฒนา ๓) จัดระบบและกลไก (หรือวางแผนการพัฒนา)
๔) กำหนดวิธีดำเนินการ และ ๕) การประเมินผลการพัฒนา

๓. รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำด้านการเผยแผ่ของพระสังฆาธิการฝั่งอันดามัน
ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณาให้การรับรองว่ามีความเหมาะสมและสามารนำไปใช้พัฒนาได้จริง เป็นไปตาม โมเดล
KSPM คือ พระสังฆาธิการ ต้องมีภาวะผู้นำ ๔ ด้าน คือ ๑) มีความรู้ด้านกฎหมาย
กฎ ระเบียบคำสั่งของคณะสงฆ์ นโยบาย แผนงานและหลักการเผยแผ่ ๒) มีทักษะ ด้านการใช้สื่อเทคโนโลยี สารสนเทศ เทคนิควิธีการเทศนา หลักพุทธธรรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ สำหรับสอนประชาชน และจัดตั้งกองทุนเพื่อการเผยแผ่ ๓) มีบุคลิกภาพ ตามองค์ธรรมในโอวาทปาฏิโมกข์
เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน ๔) มีวิธีการเผยแผ่เชิงรุก สงเคราะห์ประชาชน เข้าถึงชุมชน และปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น

สำหรับวิธีการพัฒนาพระสังฆาธิการใช้การบูรณาการ ๕ วิธี คือ ๑) ให้การศึกษาอบรมทั้งในระบบและนอกระบบ ๒) การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ๓) การจัดอภิปรายกลุ่ม ๔) การประชุมระดมสมอง และ ๕) การศึกษาดูงานนอกสถานที่

Download

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕