การวิจัยมีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อศึกษาสภาพการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อจัดการสอนศีลธรรมสำหรับนักเรียน ในโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ๒. เพื่อเปรียบเทียบการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อจัดการสอนศีลธรรมสำหรับนักเรียน ในโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ และ ๓. เพื่อเสนอแนะแนวทางการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อจัดการสอนศีลธรรมสำหรับนักเรียน ในโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการโดยเก็บข้อมูลแบบสอบถามความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่านักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน ๓๓๑ คน และใช้สถิติพื้นฐานหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน Standard Deviationและทดสอบสมมติฐานหาค่าที t-testและF-test ในกรณีมีตัวแปรมากสองกลุ่ม และแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA)
ผลการวิจัย
๑. นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นมีความคิดเห็นต่อสภาพการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อจัดการสอนศีลธรรมสำหรับนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยภาพรวม และทุกด้าน อยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ ด้านสื่อธรรมชาติในการสอนศีลธรรมด้านสื่อสิ่งพิมพ์อื่นและวัสดุอุปกรณ์การสอนศีลธรรมด้านบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนศีลธรรม ตามลำดับ
๒.ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีต่อการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อจัดการสอนศีลธรรมสำหรับนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยภาพรวม หาค่า F-test จำแนกตามอายุตามชั้นการเรียนนักเรียนมีความคิดเห็น ไม่แตกต่างกันไม่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓. ข้อเสนอแนะแนวทางการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อจัดการสอนศีลธรรม มีดังนี้
๓.๑ สื่อสิ่งพิมพ์และวัสดุอุปกรณ์ ควรจัดหารสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศมีความน่าสนใจ ใหม่ๆ มีทั้งภาพ เสียงบรรยายและเสียงดนตรีประกอบภาพ เป็นสื่อวัสดุอุปกรณ์สามารถใช้การนำสอนศีลธรรม ให้มีความหลากหลาย
๓.๒. สื่อธรรมชาติ ควรจัดหาสื่อที่มีอยู่ใกล้ตัวเรา ซึ่งสามารถหยิบยกมาเป็นผลิตสื่อนวัตกรรมเพื่อจัดการเรียนการสอนได้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้เรื่องศีลธรรม
๓.๓ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สถานศึกษาควรหาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มาเป็นสื่อช่วยสอนมีความน่าสนใจสะดวกในการค้นหาข้อมูล ข่าวสารต่างๆ เพราะสื่อคอมพิวเตอร์สามารถรับรับสัญญาณผ่านเคเบิ้ลทีวี/ทีวีดาวเทียม มีทั้งภาพและสียงเหมาะสมกับการเรียนการสอนในปัจจุบัน
Download
|