การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ศีล ๕ สำหรับนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา จังหวัดปทุมธานี ๒) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ศีล ๕ ๓) เพื่อเสนอแนวทางของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ศีล ๕ สำหรับนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นงานวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๑๕๑ คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยหา ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เอกสารและสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๕ คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
๑. สภาพปัจจุบันการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ศีล ๕ สำหรับนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา โดยรวม ๕ ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุดและรายด้าน ทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านเว้นจากการดื่มสุราและสิ่งเสพติด รองลงมา ได้แก่ ด้านเว้นจากการพูดเท็จ ด้านเว้นจากการลักทรัพย์ ด้านเว้นจาการประพฤติผิดในกาม และข้ออยู่ในระดับต่ำสุด ได้แก่ ด้านเว้นจากการฆ่าสัตว์
๒. การพัฒนาการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ศีล ๕ สำหรับนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา จังหวัดปทุมธานี พบว่า การส่งเสริมให้นักเรียนมีระเบียบวินัยเรื่องความซื่อสัตย์ รู้จักเหตุผลของความสุขทุกข์เมื่อของที่ตนเองรักหายไปมีการบูรณาการให้นักเรียนได้ตระหนักเห็นความสำคัญของศีลข้อนี้ ให้ปฏิบัติให้อยู่ในขอบเขตของศีลธรรมไม่ควรเข้าไปคบพบแบบเชิงชู้สาวกับภรรยาหรือสามีคนอื่น มีการให้รางวัล ยกย่อง ชมเชย พูดที่ไพเราะแก่นักเรียนเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีครูทุกคนสอนให้นักเรียนมีนิสัยจะพูดอะไร มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนเห็นโทษของยาเสพติดจากสื่อต่างๆ เมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องแล้วจะเกิดอะไรขึ้นผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งเสพติดที่ให้รู้จักคุณและโทษของสิ่งเสพติดต่างๆ หากมีเพื่อนหรือใครมาชวนขอให้ปฏิเสธและมีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลา
๓. แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ศีล ๕ สำหรับนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา ๑) ครอบครัวอบอุ่น ๒) มีนักเรียนต้นแบบ ๓) มีพระสงฆ์ช่วยขัดเกลาจิตใจและจัดกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ๔) มีชุมชนร่วมมือรณรงค์ต้านยาเสพย์ติดและรู้จักเคารพกฎหมายและประเพณีที่ดีงามของชุมชนในสังคม ซึ่งสอดคล้องกับองค์ความรู้ที่ว่า เรียนรู้ศีล ๕ พาชีวิตให้เจริญก้าวหน้าที่ดีตลอดไป
Download |