การศึกษานี้ เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาระดับความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคก่อนการใช้กิจกรรมหลักขันติและโสรัจจะ ๒) เพื่อศึกษาการพัฒนาความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค ๓) เพื่อเปรียบเทียบระดับความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคก่อนและหลังการใช้หลักขันติและโสรัจจะ โดยจำแนกตามเพศ สถานภาพทางครอบครัว อาชีพผู้ปกครอง ของนักเรียนโรงเรียนวัดสุคันธาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดสุคันธาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน ๓๐ คน วิธีการได้มาซึ่งกลุ่มตัวอย่าง ใช้วิธีสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบวัดระดับความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค และกิจกรรมตามหลักขันติ โสรัจจะ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ทดสอบค่าที และค่าเอฟ และ One - Way ANOVA.
ผลการวิจัย พบว่า
๑) ระดับความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค ก่อนการใช้กิจกรรมตามหลักขันติและโสรัจจะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดสุคันธาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
๒) ระดับความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค หลังการใช้กิจกรรมตามหลักขันติและโสรัจจะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดสุคันธาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด
๓) เปรียบเทียบระดับความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค ก่อนและหลังใช้กิจกรรมตามหลักขันติและโสรัจจะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดสุคันธาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ๐.๐๕ จึงเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
Download |