การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ๒ ประการ ดังนี้ ๑) เพื่อศึกษาการใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในโรงเรียนวัดไทร(ถาวรพรหมานุกูล) เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในโรงเรียนวัดไทร(ถาวรพรหมานุกูล) เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ที่มีเพศ ระดับชั้นปี ที่อยู่อาศัย อาชีพของบิดาหรือมารดา และรายได้ผู้ปกครองต่อเดือนต่างกัน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม การใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิตของนักเรียนระดับมัธยมตอนต้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วยการแจกแจงความถี่ (Frequency Distribution) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบความแตกต่างในระดับการรับรู้ การใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ด้วยค่าทดสอบที่ (t-test) การทดสอบค่าเอฟ (f-test) แบบ One Way ANOVA และวิเคราะห์สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s Correlation Coefficient)
ผลการวิจัยพบว่า
ก.ข้อมูลทั่วไป
นักเรียนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย รองลงมาเป็นเพศหญิง ตามลำดับ ด้านระดับการศึกษา ส่วนใหญ่นักเรียนศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๒ รองลงมา ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ตามลำดับ ในส่วนอาชีพผู้ปกครองของนักเรียน ส่วนใหญ่ มีอาชีพรับจ้าง รองลงมา มีอาชีพค้าขาย พ่อบ้าน/แม่บ้าน และรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ ตามลำดับ ในด้านสภาพความเป็นอยู่ของนักเรียน นักเรียนส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับบิดา/มารดา รองลงมา อาศัยอยู่กับญาติ และอาศัยอยู่หอพัก ตามลำดับ ในด้านรายได้ต่อเดือนของนักเรียน ส่วนใหญ่รายได้ของครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน
คือ๑,๑๐๐ บาทขึ้นไป รองลงมา ๑,๐๐๐ บาท ๘๐๐ บาท และ ๙๐๐ บาท ตามลำดับ
การใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในโรงเรียนวัดไทร(ถาวรพรหมานุกูล) เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับ ปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ กามสังวร ( = ๓.๔๘, = .๕๕๙) รองลงคือ สติสัมปชัญญะ ( = ๓.๓๒, = .๕๗๘) สัจจะ ( = ๓.๓๒, = .๔๘๘) เมตตากรุณา ( = ๓.๑๓, = .๕๗๔) และ สัมมาอาชีวะ ( = ๓.๑๑, = .๕๗๐)
ข. ความแตกต่างของการใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิต จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคลพบว่า นักเรียนที่มีเพศต่างกัน อาชีพของผู้ปกครองต่างกัน สภาพความเป็นอยู่ต่างกัน และรายได้ของผู้ปกครองต่างกัน มีการใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิตแตกต่างกัน เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยพบว่า ผู้ปกครองที่มีอาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ มีหลักการดำเนินชีวิตที่ดีกว่าผู้ปกครองที่มีอาชีพรับจ้าง และนักเรียนที่รายได้ของครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน ๘๐๐ บาท มีหลักเบญจธรรมในการดำเนินชึวิตมากกว่านักเรียนที่รายได้ของครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน ๑,๐๐๐ บาท ในขณะที่ความแตกต่างของระดับชั้นการศึกษา ไม่ทำให้นักเรียนมีการใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิตแตกต่างกัน
ค. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหา และแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้หลักเบญจธรรมในการดำเนินชีวิต พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ มีข้อเสนอแนะอธิบายได้ว่า ด้านเมตตากรุณา นักเรียนไม่ควรฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า ด้านสัมมาอาชีวะ ไม่ขโมยหรือหยิบสิ่งของผู้อื่น ด้านกามสังวร ไม่แย่งของรักของผู้อื่นมาเป็นของตน ด้านสัจจะ พูดแต่ความจริงไม่โกหก ไม่พูดคำหยาบ ด้านสติสัมปชัญญะ งดเว้นสุราของมึนเมา และสิ่งเสพติดทุกชนิด มีสตินึกคิดอยู่ตลอดเวลา รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ เป็นต้น
Download |