หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาปรีชา เขมนนฺโท
 
เข้าชม : ๑๙๙๖๒ ครั้ง
การประยุกต์หลักอิทธิบาทธรรมเพื่อการบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ)
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาปรีชา เขมนนฺโท ข้อมูลวันที่ : ๑๗/๐๔/๒๐๑๙
ปริญญา : พุทธศาสตรดุษฎีบัญฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระสุธีวีรบัณฑิต
  ประเสริฐ ธิลาว
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๒
 
บทคัดย่อ

การวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ ๑. เพื่อวิเคราะห์สภาพทั่วไปและปัญหาของการบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒. เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๓. เพื่อนำเสนอรูปแบบการประยุกต์หลักอิทธิบาทธรรมเพื่อการบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระเบียบวิธีวิจัยเป็นแบบผสานวิธีโดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นหลักและสนับสนุนด้วยการวิจัยเชิงปริมาณตามลำดับ  การวิจัยเชิงคุณภาพผู้วิจัยเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน ๒๒ รูปหรือคน โดยแบ่งเป็น ๓ กลุ่ม คือ ๑) กลุ่มพระสังฆาธิการ ๒) กลุ่มเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ๓) กลุ่มประชาชน  โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง(Purposive Selection)และสนทนากลุ่มเฉพาะ(Focus Group Discussion)ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๑๑ รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ๐.๙๘๓ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ปฏิบัติธรรมของสำนักปฏิบัติในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน ๓๙๗ รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D.)

             ผลการวิจัย พบว่า

             ๑. วิเคราะห์สภาพทั่วไปและปัญหาของการบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมด้วยการวิเคราะห์ SWOT Analysis  ด้านจุดแข็งสถานที่ปฏิบัติธรรมโดยมากมีความเป็นสัปปายะมีการสนับสนุนการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ต่อเนื่องมีพระวิปัสสนาจารย์ใช้หลักธรรมคำสั่งสอนตรงตามหลักพระพุทธศาสนาโดยยึดหลักการเจริญสติปัฏฐาน ๔ ด้านจุดอ่อนสำนักปฏิบัติธรรมหลักๆที่เป็นต้นแบบยังมีอยู่น้อยหลักการปฏิบัติธรรมยังใช้หลักสอนแบบสืบต่อกันมาจากครูบาอาจารย์ด้วยความเคารพและศรัทธาส่วนใหญ่นโยบายการบริหารสำนักเป็นไปตามความดำริของเจ้าสำนักด้านโอกาสคณะสงฆ์และหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนจัดกิจกรรมของสำนักปฏิบัติธรรมมีการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนผ่านทางสื่อสารสนเทศ เว็บไซต์ด้านอุปสรรคสำนักปฏิบัติธรรมแต่ละสำนักมีพื้นฐานประสบการณ์และความพร้อมแตกต่างกัน ขาดความเป็นเครือข่ายเดียวกัน ขาดศูนย์กลางประสานงานร่วมกันและการกระจายข้อมูลข่าวสารติดตามผลไปยังเครือข่าย ขาดการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรม ความคิดเห็นต่อสภาพการบริหารเครือข่ายสำนักปฏิบัติธรรมตามหลักการบริหารงาน ๕ ด้าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (=๔.๐๐) และตามหลักอิทธิบาท ๔ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (=๔.๑๐)

             ๒. วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา การบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมใช้หลักบริหาร 4m’s มีการบริหารคน บริหารเงินหรืองบประมาณ บริหารวัสดุอุปกรณ์ และการจัดการ จะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทั่วไปทั้งภายในและภายนอกว่าแต่ละสำนักมีพื้นฐานประสบการณ์และความพร้อมแตกต่างกัน ดังนั้นต้องมีการประชุมร่วมกันทุกภาคส่วนเพื่อวางแผนการบริหารทำงานให้ชัดเจน ผู้บริหารหรือเจ้าสำนักจะต้องให้ความสำคัญดูแลเอาใจใส่ในการปฏิบัติงานร่วมกันในทุกกระบวนการ

              ๓. นำเสนอการนำหลักอิทธิบาทธรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อการบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แนวทางการบริหารเครือข่ายต้องจัดการประชุมพูดคุยปรึกษาหารือร่วมกันของทุกภาคส่วนเพื่อวางแผนร่วมกันการบริหารจัดการงาน ๕ ด้าน ๑) ด้านการวางแผน ๒) ด้านการจัดองค์กร ๓) ด้านบุคลากร ๔) ด้านอำนวยการ ๕) ด้านการกำกับดูแล และเชื่อมโยงต่อไปยังแผนการบริหารปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหาร 4m’s ร่วมกัน ๑) ด้านคน ๒) ด้านเงิน ๓) ด้านวัสดุ ๔) ด้านการจัดการ เชื่อมโยงกับแผนการบริหารหลักพุทธธรรมอิทธิบาท ๔ ร่วมกัน ๑) ฉันทะ ๒) วิริยะ ๓) จิตตะ ๔) วิมังสาโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานมีการรับรู้และมุมมองที่เหมือนกัน มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน มีความสนใจหรือผลประโยชน์ร่วนกัน มีส่วนร่วมของสมาชิกในเครือข่าย มีการเสริมสร้างซึ่งกันและกัน มีการเกื้อหนุนพึ่งพากัน มีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนกันและเชื่อมโยงต่อไปยังศูนย์กลางข้อมูลประสานงานและติดตามผลเชื่อมโยงไปยังงานประชาสัมพันธ์ เชื่อมโยงต่อไปยังเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมในจังหวัด เชื่อมโยงนำไปปฏิบัติในสำนักของตน ถ้าพบปัญหาอุปสรรคเชื่อมโยงกลับมายังศูนย์กลางข้อมูลประสานงาน

Download

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕