การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์คือ ๑.เพื่อศึกษาการบริหารจัดการงานประพฤติวุฏฐานวิธีของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ๒.เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นการบริหารจัดการงานประพฤติวุฏฐานวิธีของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓.เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการบริหารจัดการงานประพฤติวุฏฐานวิธีของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์
ระเบียบวิธีวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ เป็นการสำรวจด้วยแบบสอบถามซึ่งมีความความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๗๕๙ กับกลุ่มตัวอย่างได้แก่ พระสงฆ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน ๒๖๘ รูป ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และทดสอบค่าเอฟ ด้วยวิธีวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๙ รูป/คน โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
๑. พระสงฆ์มีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการงานประพฤติวุฏฐานวิธีของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = ๓.๙๗, S.D. = ๐.๓๔) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน ดังนี้ ด้านการบริหารจัดการ ( = ๔.๐๐, S.D. = ๐.๕๐๘) ด้านวิทยากร ( = ๓.๙๘, S.D. = ๐.๕๘๑) ด้านสถานที่ ( = ๓.๙๔, S.D. = ๐.๕๘๖) และ ตามลำดับ
๒. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ที่มีต่อการบริหารจัดการงานประพฤติวุฏฐานวิธีของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยจำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล คือ อายุ พรรษา วุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม วุฒิการศึกษาสามัญ พบว่า พระสงฆ์ที่มี อายุ พรรษา วุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม มีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการงานประพฤติวุฏฐานวิธีของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย ส่วนพระสงฆ์ที่มีวุฒิการศึกษาสามัญต่างกัน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมุติฐานการวิจัย
๓. ปัญหา อุปสรรค การบริหารจัดการงานประพฤติวุฏฐานวิธีของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า ๑) เจาสำนักขาดวิสัยทัศนในการปรับปรุงสถานที่ภายในวัด ๒) เจ้าสำนักมีอาคารไมสามารถรองรับจำนวน ผูมาร่วมประพฤติวุฒฐานวิธี จำนวมมาก ๆ ได ๓) ขาดกระบวนการคัดสรรกลั่นกรองรผู้เขามาบวชเป็นพระภิกษุอย่างเป็นขั้นตอน ข้อเสนอแนะควรนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ เช่น หลักอิทธิบาท ๔ เพราะเป็นคุณเครื่องให้ถึงความสำเร็จ คุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จแห่งผลที่มุ่งหมาย คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ๑) เจ้าสำนัก ควรมีการปรับปรุงภูมิทัศนของสถานที่สำนัก ใหเหมาะสมกับภูมิประเทศ และมีกฎระเบียบในการเขาพักสำหรับผู้เข้าประพฤติวุฒฐานวิธี ๒) เจ้าสำนักควรจัดคนทําความสะอาดเป็นประจำไม่รก อากาศถายเทดี ปองกันปลวก แมลงตาง ๆ มีรองเทาสำหรับเข้าหองน้ำ ไม่มีกลิ่นรบกวน ผนังหองน้ำ โถสวม อางลางมือ มีความสะอาดพรอมใชงานได้ ๒) เจาสำนักควรพัฒนาบุคลิกภาพใหมีความเปนผูนำที่นั่งอยูในใจของผูอื่น รูจักแบงงานรูจักใชคนใหเหมาะสมกับงานและความรู รูจักบริหารศรัทธาของประชาชน
Download |