การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารความเสี่ยงของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๓ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารความเสี่ยงของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๓ 3) เพื่อเสนอแนวทางการบริหารความเสี่ยงของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๓เป็นงานวิจัยแบบผสมผสานวิธี คือ การวิจัยเชิงปริมาณ ประกอบด้วยการแจกแบบสอบถามผู้บริหารและครูผู้สอนในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม3 จำนวน 148 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน นำเสนอในรูปแบบตารางประกอบคำบรรยาย และการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๕ ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
สภาพการบริหารความเสี่ยงของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๓ ในภาพรวมทั้ง 4 ด้าน มีระดับความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับความเสี่ยงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านบริหารงบประมาณ ด้านบริหารงานบุคคล ด้านบริหารวิชาการ และด้านบริหารทั่วไป ตามลำดับ
แนวทางทางการบริหารความเสี่ยงของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๓ ที่ได้จากการวิจัยสามารถสรุปและนำเสนอเป็นรายข้อได้ดังนี้
1) ต้องจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นขั้นตอน 8 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ศึกษาสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน 2. กำหนดวัตถุประสงค์ 3. ระบุความเสี่ยง 4. ประเมินความเสี่ยง 5. ตอบสนองความเสี่ยง 6. กำหนดกิจกรรมควบคุม 7. ข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร 8. ติดตามผลและรายงาน
2) ต้องสนับสนุนครูให้มีความรู้ความเข้าใจในการตรวจสอบภายใน เพื่อรองรับการประเมินจากภายนอกต่อไป
3) ต้องมีการจัดทำแผนปรับปรุงหลักสูตร และปรับกระบวนการเรียนการสอนให้บุคลากร ตลอดจนมีการนิเทศและติดตาม
4) แต่งตั้งคณะกรรมการวางแผนทางการเงิน ตรวจสอบและติดตามการการใช้จ่ายตลอดจนการรับพัสดุ
5) อมรมครูหรือเจ้าหน้าที่ทุกคนให้มีความรู้ด้านกฎระเบียบเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นระหว่างการดำเนินงาน
6) ส่งครูหรือเจ้าหน้าที่ให้ไปอบรมตามสถาบันต่างๆ
7) เป็นกันเองกับครู และกระตุ้นให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มความรู้ความสามารถ
8) ให้ครูทำแผนการสอนที่ไม่ต้องสวยหรู แต่ต้องถูกต้องตามแบบแผน เขียนมาไม่ต้องกลัวว่าจะทำผิด ให้ใช้การเสริมแรง ให้กำลังใจพร้อมแนะนำ
9) การประชาสัมพันธ์ผลงานของนักเรียนต้องใช้สื่อออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ ประชาสัมพันธ์ทางเฟสบุ๊กไลน์ หรือเพจต่างๆ
10) ต้องสนับสนุน ส่งเสริมให้บุคลากรมีการพัฒนาความรู้ ทักษะ การปฏิบัติงานเพื่อนำมาพัฒนากิจกรรมของโรงเรียน
11) ควรหลักธรรมในการบริหาร คือ พรหมวิหารธรรมและพาหุสัจจะ
Download
|