หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » โสทรินทร์ โชคคติวัฒน์
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๓ ครั้ง
ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธในอาเซียนระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
ชื่อผู้วิจัย : โสทรินทร์ โชคคติวัฒน์ ข้อมูลวันที่ : ๑๙/๐๓/๒๐๑๙
ปริญญา : พุทธศาสตรดุษฎีบัญฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระราชปริยัติมุนี (เทียบ สิริญาโณ)
  ประพันธ์ ศุภษร
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๒
 
บทคัดย่อ

           ดุษฎีนิพนธ์เรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ๓ ประการ ดังนี้คือ ๑. เพื่อศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวเชิงพุทธในพุทธศาสนสถาน ๒. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับนโยบายยุทธศาสตร์ปัญหาและอุปสรรคการท่องเที่ยวในประเทศไทยกับสาธาณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ๓. เพื่อเสนอแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธระหว่างประเทศไทยกับสาธาณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

             ผลการวิจัยจากการสัมภาษณ์ ในการแสดงความคิดเห็นพบว่า ยุทธศาสตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธในอาเซียนระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ นั้นประกอบด้วยประเด็นสำคัญ ๔ ด้านคือ ๑. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านการพัฒนาการศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจ ๒. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวในด้านพัฒนาจิตใจ และคุณภาพชีวิตในการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ในหลักธรรมเรื่อง ศีล สมาธิ และปัญญา ๓. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวในด้านการบริหารจัดการและสิ่งแวดล้อม             ๔. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านความมั่นคงของพระพุทธศาสนา

             สรุปผลการวิจัย ยุทธศาสตร์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธในอาเซียน ระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่า ผลจากการวิจัยโดยการสัมภาษณ์ในการแสดงความคิดเห็นต่างๆและ Focus group  ได้มิติ ๔ ด้านคือ ๑ด้านศาสนสถาน ศาสนาวัตถุ ศาสนสถาน คือสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วัดวาอาราม โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ศาสนวัตถุ คือวัตถุมงคลในพระพุทธศาสนา เช่น พระพุทธรูป พระไตรปิฎก ตำราทางพุทธศาสนา ๒ ด้านศาสนธรรม ธรรมคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธพจน์ เนติปกรณ์  ๓. ด้านศาสนบุคคลคือ พระสงฆ์ สามเณร และแม่ชี         ๔.ด้านศาสนพิธี  คือด้าน วัฒนธรรมประเพณีพิธีกรรมทางพุทธศาสนา ไว้อย่างยั่งยืน เพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามต้องการ สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยยุทธศาสตร์ทางการบริหารจัดการมาเพื่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว วัดวาอาราม เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยผู้วิจัยนำเสนอรูปแบบที่ได้จากการวิจัยคือ BLANCE TOURISOM MODEL = BSHMEMS

 

Download

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕