งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาหลักฉันทะในพระพุทธศาสนาเถรวาท
(๒) เพื่อศึกษากรณีตัวอย่างบุคคลที่มีฉันนะในพระพุทธศาสนา (๓) เพื่อเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้หลักฉันทะในโรงเรียน ใช้พระไตรปิฎกเป็นข้อมูลปฐมภูมิ ใช้หนังสือ ตำรา รายงานวิจัยและสื่อออนไลน์อื่น ๆ เป็นข้อมูลทุติยภูมิ มีการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลเอกสารปฐมภูมิจากพระไตรปิฎก ทุติยภูมิจากอรรถกถา ตำรา หนังสือ ข้อมูลภาคสนามจากการสัมภาษณ์บุคคลตัวอย่างใช้เครื่องมือวิจัยแบบสัมภาษณ์ต่อกลุ่มเป้าหมายได้แก่ผู้บริหาร ครู นักเรียนโรงเรียนวังแดง ๒ อำเภอ ตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน ๒๐ คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
ฉันทะคือ ความพอใจ ใฝ่ใจ เต็มใจที่จะทำการงานนั้น ๆ ทุ่มเทความสามารถชีวิตจิตใจให้สำเร็จลุล่วงไป ที่สำคัญคือมีความปรารถนาที่จะทำงานนั้นให้ดีที่สุด โดยไม่พะวงกับสิ่งเร้าหรือผลตอบแทนทั้งหลาย มีบุคคลตัวอย่างทั้งพระสงฆ์ พระราชา นักปราชญ์ที่ใช้หลักฉันทะนำไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานที่สำคัญในสมัยพุทธกาล เช่น พระอานนท์ พระสารีบุตร พระมหากัสสปะ พระนันทกะ สมัยหลังพุทธกาล มีพระเจ้าอชาตศัตรู พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นต้น และบุคคลในสังคมปัจจุบัน ได้แก่ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี เป็นต้น
แนวทางการประยุกต์ใช้หลักฉันทะในโรงเรียนในฐานะกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้บริหาร ครู และ นักเรียนโรงเรียนวังแดง ๒ มีรายด้าน ได้แก่ ด้านนโยบาย โรงเรียนสร้างบทเรียนให้ครูนำหลักฉันทะมาประยุกต์ใช้สร้างบทเรียนเสริมเชิงบูรณาการ ด้านกิจกรรม ครูผู้สอนได้นำเอาหลักฉันทะมาเป็นจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยนำมาจากแผนการจัดการเรียนรู้ ด้านการบ้าน ครูได้มอบหมายการบ้านให้นักเรียนคิดสร้างสรรค์ชิ้นงานกับกีฬาและสอดคล้องกับเนื้อหาในบทเรียน ส่งผลให้นักเรียนได้ส่งการบ้านครบตรงเวลาและทำได้ถูกต้อง ด้านค่ายอบรม โรงเรียนได้มีนโยบายในการจัดกิจกรรมเข้าค่ายอบรมคุณธรรม จริยธรรม เป็นประจำทุกปี ด้านการปลูกฝังค่านิยม โรงเรียนได้มีนโยบายปลูกฝังค่านิยม ๑๒ ประการตามแนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้นักเรียนมีจิตสำนึกในการเป็นพลเมืองที่ดี ด้านสร้างฉันทะแก่คน นักเรียนจัดทำวิธีสร้าง ๔ วิธี คือ (๑) สำนึกในวัยสร้างตัว(๒) สำนึกในวัยกลางคน (๓) วิธีอดทนภาวะกดดัน (๔) วิธีสร้างฝันแก่ตนเอง
Download |