การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษาปฏิจจสมุปบาทในพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาตามแนวสติปัฏฐาน ๔ และเพื่อศึกษาปฏิจจสมุปบาทฝ่ายเหตุในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา โดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท คือพระไตรปิฎก อรรถกถา และคัมภีร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วนำมาเรียบเรียงบรรยายเป็นเชิงพรรณนาเสนอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้วแก้ไขตามคำแนะนำ
ผลการวิจัยพบว่า ปฏิจจสมุปบาทเป็นองค์ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ในฐานะเป็น ตัวสภาวะหรือกฎของธรรมชาติ ซึ่งเป็นหลักความจริงที่มีอยู่โดยธรรมดา ปฏิจจสมุปบาทเป็นองค์ธรรม ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์เป็นเหตุเป็นปัจจัยเกี่ยวโยงกันเป็นลูกโซ่ตลอดสาย ทั้งสายเกิดและสายดับ ปฏิจจสมุปบาทแสดงถึงสภาวะของชีวิตตั้งแต่เกิดจนถึงตาย เมื่อเข้าใจในปฏิจจสมุปบาทนี้แล้ว ย่อมเป็นผู้หายสงสัยในเรื่องโลกและชีวิต นรก สวรรค์ บุญ บาป ชาตินี้ ชาติหน้า และนิพพานว่าเป็นของจริง
วิปัสสนาภาวนา หมายถึง การอบรมจิตให้เกิดปัญญารู้แจ้งชัดสภาวธรรมของนามรูป ตามหลักสติปัฏฐาน ๔ ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาจะต้องมีองค์คุณ ๓ คือ มีความเพียร มีสติ มีสัมปชัญญะ ในการกำหนดรู้ทางกาย เวทนา จิต และธรรม จุดหมายของการเจริญวิปัสสนาคือการบรรลุมรรคและ ผลญาณ ซึ่งจะทำให้รู้แจ้งพระนิพพานโดยผ่านอริยสัจ ๔ (๑) ความรู้แจ้งในความทุกข์ (๒) ความรู้แจ้งในเหตุแห่งความทุกข์ (๓) ความรู้แจ้งในความดับทุกข์ (๔) ความรู้แจ้งในหนทางปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์
การศึกษาปฏิจจสมุปบาทฝ่ายเหตุในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาเป็นการศึกษาความสัมพันธ์ของการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน ๔ กับหลักปฏิจสมุปบาทฝ่ายเหตุ ซึ่งปรากฏ ในกระบวนการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาในฐานกาย เวทนา จิต และธรรม การเข้าใจปฏิจจสมุปบาท ฝ่ายเหตุคือการเกิดดับในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา ทำให้เห็นความเป็นปัจจัยของนามรูปในขณะที่กำหนดรู้ตามฐานต่างๆ ในสติปัฏฐานทั้ง ๔ อย่างถูกต้อง และทำลายความสงสัยในปัจจัยให้เกิดดับของนามรูป ในขั้นปัจจยปริคคหญาณซึ่งส่งผลให้หยุดคิดฟุ้งซ่านผ่านเข้าสู่สัมมสนญาณซึ่งเป็นทางให้การปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาดำเนินไปอย่างถูกต้อง เกิดความก้าวหน้าในการปฏิบัติจนสามารถบรรลุถึงความหลุดพ้น คือ มรรค ผล และนิพพานต่อไปได้
Download
|