การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ข้อ คือ ๑) เพื่อศึกษาแนวคิดและทฤษฎีงานสังคมสงเคราะห์ในวิทยาการปัจจุบัน ๒) ศึกษาแนวคิดงานสังคมสงเคราะห์ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท ๓) เพื่อเสนอแนวทางการดำเนินงานสังคมสงเคราะห์ของวัดในจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย โดยในการศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลภาคสนาม (Field Study) โดยใช้แบบสัมภาษณ์ (Interview) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผลการศึกษาพบว่า
๑) งานสังคมสงเคราะห์ หมายถึง การให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากสามัญสำนึกที่จะให้ความช่วยเหลือด้วยจิตอาสา เพื่อที่จะให้ผู้ประสบปัญหาต่าง ๆ เหล่านั้นสามารถที่จะทำการช่วยเหลือตนเองได้ โดยมีแนวคิดพื้นฐานที่เกิดจากความเมตตากรุณาต่อบุคคลผู้ซึ่งได้รับความทุกข์ยากลำบากจากปัญหาต่าง ๆ มีการนำศาสตร์ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการของงานสังคมสงเคราะห์ ได้แก่ ทฤษฎีบทบาท ทฤษฎีแห่งระบบ ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีแผน ทฤษฎีจิตสังคม ทฤษฎีการหน้าที่ ทฤษฎีเน้นพฤติกรรมทางสังคม และทฤษฎีการช่วยเหลือในกรณีวิกฤติการณ์ เป็นต้น
๒) งานสังคมสงเคราะห์ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มนุษย์รู้จักความจริงของชีวิตเพื่อให้มนุษย์ทั้งหลายพ้นจากทุกข์ มุ่งหวังให้มนุษย์มีชีวิตที่ดำรงอยู่อย่างไม่เบียดเบียนผู้อื่น ให้มีเมตตาเอื้อเฟื้อแด่บุคคลทั่วไป โดยมีแนวคิดพื้นฐานคือการบูชายัญ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการบูชายัญโดยการฆ่าสัตว์มาเป็นการสงเคราะห์ช่วยเหลือ เว้นจากการฆ่า การเบียดเบียนและการทำลายชีวิต ในพระพุทธศาสนามีการสงเคราะห์ ๒ อย่าง คือ ๑) การสงเคราะห์ด้วยอามิส ๒) การสงเคราะห์ด้วยธรรม ซึ่งหลักธรรมที่สำคัญของงานสังคมสงเคราะห์ในพุทธศาสนาเถรวาท ได้แก่ สังคหวัตถุ ๔ คือ ทาน การให้ ปิยวาจา การกล่าววาจาเป็นที่รัก อัตถจริยา การบำเพ็ญประโยชน์ และสมานัตตตา ความเป็นผู้มีตนสม่ำเสมอ จัดว่าเป็นหลักธรรมเป็นเครื่องสงเคราะห์ หรือเป็นหลักปฏิบัติเพื่อการสงเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกันของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
Download
|