บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงฆ์เพื่อ ๑. ศึกษาการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ๒. ศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลใน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ และ ๓. ศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการใน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์
งานวิจัยฉบับนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างงานวิจัยเชิงปริมาณ ด้วยการสำรวจ กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพระสงฆ์จำนวน ๑๖๘ รูป เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ ๐.๙๔๒ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-Teat) ค่าเอฟ (f-Teat) และงานวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๘ ท่าน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = ๓.๕๕, S.D. = ๐.๖๔๕) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทั้ง ๖ ด้าน คือ ด้านนิติธรรม ( = ๓.๖๐ , S.D. = ๐.๗๒๑) ด้านความคุ้มค่า ( = ๓.๕๗ , S.D. = ๐.๗๑๗ ) ด้านความรับผิดชอบ ( = ๓.๕๕ , S.D. = ๐.๗๔๐) ด้านคุณธรรม ( = ๓.๕๔ , S.D. = ๐.๗๓๔) ด้านการมีส่วนร่วม ( = ๓.๕๔, S.D. = ๐.๗๔๕) และด้านความโปร่งใส ( = ๓.๔๘ , S.D. =๐.๖๙๔) ตามลำดับ
๒. ผลเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อ การปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ พรรษา วุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม และวุฒิการศึกษาสามัญ พบว่า พระสงฆ์ที่มี อายุ ต่างกันมีความคิดเห็นต่อการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนพระสงฆ์ที่มีพรรษา วุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม และวุฒิการศึกษาสามัญต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ไม่ต่างกัน จึงปฎิเสธสมมุติฐานที่ตั้งไว้
๓. ปัญหา อุปสรรค เกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ พบว่า พระสังฆาธิการขาดความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายอย่างแท้จริง ขาดการกระจายอำนาจด้านการปกครองโครงสร้างทางรูปแบบการปกครองยังไม่ชัดเจน ข้อเสนอแนะพบว่า คณะสงฆ์ควรมีการจัดอบรมถวายความรู้แก่พระสังฆาธิการด้านกฎหมาย ควรกระจายอำนาจการปกครอง เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายและพัฒนารูปแบบการปกครองให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม
ดาวน์โหลด
|